บริษัทเอกชนญี่ปุ่นห่วงเยนร่วงแรง เรียกร้อง BOJ ปรับนโยบายการเงิน

28 เม.ย. 2567 | 17:31 น.

ผู้บริหารญี่ปุ่นห่วงเงินเยนร่วงหนักแตะสถิติใหม่ที่ 158 เยนเทียบดอลลาร์สหรัฐ เรียกร้องขอให้ปรับนโยบาย หลังธนาคารกลาง (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้บริหารธุรกิจของญี่ปุ่นแสดงความวิตกกังวลต่อกรณีที่ เงินเยนอ่อนค่าลง ภายหลังจากที่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ได้ตัดสินใจคงนโยบายการเงิน ขณะที่เงินเยนร่วงสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ โดยเงินเยนได้อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำเป็นสถิติใหม่นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2533 ที่ระดับประมาณ 158 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี ภายหลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0-0.1% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 เม.ย.)

รายงานข่าวระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปี เงินเยนอ่อนค่าลงไปแล้วเกือบ 11% การประกาศนโยบายของ BOJ ทำให้เงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำนิวโลว์หลายครั้งเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และนักสังเกตการณ์ในตลาดมองว่า อัตราดอกเบี้ยส่วนต่างของสหรัฐและญี่ปุ่นจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

เมื่อเทียบกับเงินบาทไทย เงินเยนอ่อนค่าลงมากทำสถิติเช่นกัน โดยเงิน 100 เยนใช้เงินบาทเพียง 23.37 บาทก็แลกได้แล้ว นับเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 27 ปี หรือตั้งแต่ปี 1997 

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 เม.ย.) นอกจาก BOJ จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0-0.1% แล้ว ยังส่งสัญญาณว่าญี่ปุ่นยังจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป (Ultra-Loose Policy) ซึ่งหมายความว่า BOJ จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ และนั่นก็จะทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายของญี่ปุ่นและของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) กว้างเช่นนี้ต่อไป ทำให้นักลงทุนย่อมเสาะหาผลตอบแทนที่ดีกว่าญี่ปุ่น

ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายของญี่ปุ่นอยู่ที่ 0-0.1% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด อยู่ในระดับสูง 5.25-5.5%

สำนักข่าว NHK สื่อใหญ่ของญี่ปุ่นรายงานว่า ผู้บริหารธุรกิจเอกชนในญี่ปุ่นได้เรียกร้องต่อ BOJ ให้ปรับนโยบายหลังจากที่ค่าเยนร่วงลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในขณะที่สัปดาห์แห่งการท่องเที่ยว หรือ “โกลเด้นวีค” ในญี่ปุ่นได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวันเสาร์ (27 เม.ย.) ปัญหาเรื่องค่าเงินเยนจึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเกิดความกังวล แต่ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวต่างชาติต่างก็อาศัยจังหวะที่ค่าเงินเยนอ่อนตัวหลั่งไหลกันเข้ามาเที่ยวญี่ปุ่นมากขึ้น

เทศกาลโกลเด้นวีคในญี่ปุ่นเริ่มขึ้นแล้ว และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 6 พ.ค.นี้ (ภาพข่าว AFP)

ทั้งนี้ NHK ระบุว่า เทศกาลโกลเด้นวีคในญี่ปุ่นจะสิ้นสุดลงในวันที่ 6 พ.ค.นี้  และชาวญี่ปุ่นต่างก็กังวลเกี่ยวกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (2566) มีตัวเลขคาดการณ์ว่า ในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าวนี้ จะมีประชาชนท่องเที่ยวในญี่ปุ่นถึง 23.3 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 แต่ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 70% ก็เลือกที่จะท่องเที่ยวแบบไม่พักค้างคืน

นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากบอกกล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลง ทำให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยและเที่ยวชมจุดหมายปลายทางในญี่ปุ่นได้ง่ายยิ่งขึ้น

ในทางกลับกัน สำนักข่าว NHK รายงานว่า ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยิ้มแย้มกับสถานการณ์เช่นนี้ แต่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นกลับรู้สึกตรงกันข้าม หญิงชาวญี่ปุ่นที่เพิ่งแต่งงานคนหนึ่งระบุว่า "ฉันอยากไปเที่ยวต่างประเทศมาก ๆ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น"

งินเยนที่อ่อนค่าลง ทำให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยและเที่ยวชมจุดหมายปลายทางในญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น

ขณะที่คู่รักชาวญี่ปุ่นคู่หนึ่งรู้ซึ้งถึงผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนที่ย่ำแย่ระหว่างพักอยู่ที่ฮาวายเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์

 “บางครั้งเราไม่กินมื้อเช้าและกินแค่มื้อสายเพื่อประหยัดค่าอาหาร และบางครั้งอาหารเช้าก็เป็นอาหารสำเร็จรูปที่นำมาจากญี่ปุ่น ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนดีขึ้นอีกนิด การท่องเที่ยวฮาวายครั้งนี้ก็คงง่ายขึ้นมาก"

การสำรวจโดย JTB บริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ ชี้ว่า ผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าร้อยละ 70 เลือกที่จะไม่เดินทางโดยพักค้างคืน และผู้คนจำนวนมากก็อ้างปัญหาเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว