"เล่นบทตบ-จูบ" สหรัฐฯพร้อมออกใบอนุญาตให้ค้าขายกับหัวเว่ยได้แล้ว

05 พ.ย. 2562 | 01:14 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

  • สหรัฐฯเตรียมให้ใบอนุญาตให้บ.สหรัฐทำธุรกิจกับบ.เทคโนโลยีของจีนได้หลังจากขึ้นบัญชีดำห้ามในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
  • หัวเว่ยจะสามารถกลับมาใช้แอพของกูเกิลได้หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกห้ามในเดือนพ.ค. ทำให้สมาร์ทรุ่นล่าสุดของหัวเว่ยไม่มีแอพของกูเกิล
  • การเจรจาการค้าระหว่างมหาอำนาจสองประเทศ มีความคืบหน้าและอาจจะลงนามขั้นต้นได้ในเร็วๆนี้

รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ วิลเบอร์ รอสส์ กล่าวในระหว่างการเยือนประเทศไทยในการประชุมอาเซียนว่า ทางการสหรัฐฯเตรียมที่จะคืนใบอนุญาตให้กับบริษัทเอกชนในสหรัฐฯขายชิ้นส่วนรวมถึงเทคโนโลยีต่างๆให้กับหัวเว่ยและบริษัทอื่นๆในจีนได้ในไม่ช้า  

รอสส์ยังกล่าวอีกว่า การคืนใบอนุญาตจะดำเนินการในเร็วๆนี้ ซึ่งตอนนี้ได้รับคำขอมากกว่า 206 ใบอนุญาตแล้ว โดยเป็นคำขอที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้

วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ

แม้ว่าจะมีข่าวออกมาว่าบริษัทในสหรัฐฯจะกลับมาทำธุรกิจกับบริษัทเทคโนโลยีของจีนได้อีกครั้ง หนึ่งในนั้นคือบริษัทหัวเว่ย ที่ตอนนี้ไม่สามารถใช้แอพพลิเคชั่นของกูเกิล อย่างเช่น กูเกิลแมพ ยูทูป และอื่นๆได้  แต่หัวเว่ยยังไม่แสดงความคิดเห็นใดๆกับข่าวนี้

ย้อนกลับไปในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทผลิตอุปกรณ์สื่อสารยักษ์ใหญ่ของโลก อย่างหัวเว่ย ถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำในฐานะที่ถูกจับตามองซึ่งมีผลเกี่ยวเนื่องกับความมั่นคง และถูกห้ามไม่ให้บริษัทสหรัฐฯทำธุรกิจหากไม่ได้รับใบอนุญาต

ในเดือนถัดมา(มิ.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สัญญากับเอกชนสหรัฐฯว่าจะผ่อนคลายมาตรการนี้กับบริษัทที่ทำธุริกับหัวเว่ย

ส่วนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ บอกว่าไม่มีเหตุผลที่จะหยุดการลงนามได้ในเดือนนี้  “ทุกอย่างเป็นรูปเป็นร่าง เรากำลังสร้างกระบวนการเจรจาที่ดี และไม่มีเหตุเลยที่จะหยุดชะงัก”

วันจันทร์ (4 พ.ย.) ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียงของจีน และ วิลเบอร์ รอส รมว.พาณิชย์ได้พบปะหารือกันในเวทีอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยสำนักข่าวต่างชาติรายงานความคืบหน้าของการเจรจาว่า ประธานาธิบดีของจีนอาจจะเดินทางไปสหรัฐฯเพื่อทำการลงนามในข้อตกลงการค้าขั้นต้นกับประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แต่การไปครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการไปเยี่ยมในฐานะแขกของรัฐบาล ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจใดๆทั้งสิ้น