สายแข็งมาแล้ว ‘บอริส จอห์นสัน’ นายกฯอังกฤษคนใหม่ ขีดเส้นวันออกจากอียู 31 ต.ค.นี้

พรรคอนุรักษ์นิยม หรือที่รู้จักในนาม พรรคทอรี่ (ซึ่งหมายถึงพรรคขุนนางเมื่อครั้งอดีตกาล) ลงคะแนนเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2562 ผลปรากฏว่า นายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีมหานครลอนดอน ได้คะแนนนำคู่แข่งคือนายเจอเรมี ฮันต์ อย่างลอยลำ โดยคว้าชัยชนะด้วยคะแนน 92,153 เสียง ต่อ 46,656 เสียง ทำให้ในวันที่ 24 ก.ค.นี้  เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่และจะรับตำแหน่งต่อจากนางเทเรซา เมย์ ที่ลาออกทั้งจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี  

บอริส จอห์นสัน กล่าวแถลงประกาศชัยชนะว่า เขาจะเดินหน้าสานต่อกระบวนการ ‘เบร็กซิท” หรือการนำอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ให้สำเร็จลุล่วงให้ได้ จะรวมพลังสามัคคีในประเทศ และจะกำราบฝ่ายค้านอย่างนายเจอเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน “เราจะต้องร่วมกันเติมพลังให้ประเทศชาติ  ต้องทำกระบวนการเบร็กซิทให้ลุล่วงภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ และเดินหน้าคว้าโอกาสดีๆทั้งหมดทั้งมวลที่มาพร้อมกับก้าวย่างใหม่ๆ จิตวิญญาณใหม่ที่มั่นใจว่า ‘เราทำได้’ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม” 

นอกจากนี้ บอริสยังกล่าวขอบคุณนางเทเรซา เมย์ ที่เคยร่วมงานกันมาในรัฐบาล โดยเขาเคยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศก่อนจะลาออกเมื่อมีความเห็นไม่ลงรอยกันในกรณีเบร็กซิท ด้านนายเจอเรมี ฮันต์ แม้จะพ่ายแพ้แต่ก็ยังแสดงความยินดีกับนายจอห์นสัน โดยกล่าวว่า นายบอริส จอห์นสัน จะทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมแน่ๆ เพราะเขาเป็นผู้ที่มีความเชื่อมั่นอย่างมากในศักยภาพของอังกฤษ และคุณสมบัติดังกล่าวก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความท้าทายในปัจจุบัน

ในจำนวนสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมเกือบๆ 160,000 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา 87.4%  นายบอริส จอห์นสันได้รับคะแนนโหวต 66.4%  ต่ำกว่าเมื่อครั้งที่นายเดวิด คาเมรอน อดีตหัวหน้าพรรค(และอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ) เคยทำสถิติไว้ 67.6% เมื่อครั้งเลือกตั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรคในปี 2548

ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวในกรุงวอชิงตัน ดีซี แสดงความยินดีกับว่าที่ผู้นำอังกฤษคนใหม่ โดยเขากล่าวว่า นายจอห์นสันเป็นคนดีอย่างแท้จริง และเชื่อว่าจะสามารถทำกระบวนการเบร็กซิทให้ลุล่วงได้  “ใครๆก็เรียกเขาว่า ‘ทรัมป์แห่งประเทศอังกฤษ’ นั่นเป็นเรื่องที่ดี” ผู้นำสหรัฐฯกล่าว

บอริสเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของมหานครลอนดอน และตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองของเขาก่อนหน้านี้คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  เขาจะประกาศตำแหน่งต่างๆในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในวันพุธนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) สำหรับจุดยืนของจอห์นสัน เกี่ยวกับกรณีของเบร็กซิทคือ เขาประกาศว่า อังกฤษจะต้องออกจากอียูภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ไม่ว่าจะมีข้อตกลงหรือไม่มีข้อตกลงมารองรับก็ตาม นั่นหมายความว่า ถ้าสมาชิกพรรคและรัฐสภาไม่สามารถอนุมัติร่างข้อตกลงแยกตัว (withdrawal agreement หรือWA) ที่รัฐบาลนำเสนอเพื่อการแยกตัวออกจากอียูอย่างมีขั้นตอนและเป็นระบบภายในเส้นตายดังกล่าว  เขาก็จะนำอังกฤษออกจากอียูแบบไม่มีข้อตกลงที่หลายคนเรียกว่า hard Brexit ซึ่งจุดยืนดังกล่าวแม้แต่สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมด้วยกันเองก็ไม่เห็นด้วย  อาทิ นางแอนน์ มิลตัน รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อรู้ว่านายจอห์นสันจะชนะการเลือกตั้ง เพราะเธอไม่เห็นด้วยกับฮาร์ดเบร็กซิท และยืนยันว่า อังกฤษจะต้องออกจากอียูอย่างถูกต้องเหมาะสมและมีความรับผิดชอบ เช่นเดียวนายเดวิด โก๊ก รัฐมนตรียุติธรรม ที่ประกาศจะลาออกเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการออกจากอียูอย่างไร้เงื่อนไขและข้อตกลง

วันพุธที่ 24 ก.ค.นี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) จะเป็นวันที่นางเทเรซา เมย์ ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ โดยเธอจะกล่าวแถลงการณ์อำลาที่หน้าบ้านพักหมายเลข 10 ถนนดาวนิ่ง และเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่พระราชวังบัคกิงแฮม วันเดียวกันนั้นนายบอริส จอห์นสันจะประกาศฟอร์มรัฐบาลใหม่ และไปกล่าวแถลงหน้าบ้านพักเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง (ซึ่งเป็นทำเนียบที่พักของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ) ครั้งแรกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากนั้นวันที่ 25 ก.ค. เขาจะกล่าวแถลงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ในการขับเคลื่อนกระบวนการเบร็กซิท