‘ธุรกิจผู้ดี’เชื่อมั่นลด สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจระยะสั้นชะลอ

นักวิเคราะห์มองแนวโน้มเศรษฐกิจอังกฤษอ่อนแอลง จากผลของความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากเบร็กซิทกระทบความเชื่อมั่นของธุรกิจและผู้บริโภคขณะที่ผลสำรวจล่าสุดชี้ภาคธุรกิจ 40% กล่าวว่าเริ่มได้รับผลกระทบจากเบร็กซิทแล้ว
นักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาไอเอชเอส มาร์คิต กล่าวผ่านรายงานว่าบรรยากาศการทำธุรกิจที่มีความเปราะบางเนื่องจากความหวั่นวิตกกับผลของเบร็กซิท ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองภายในประเทศและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในสหราชอาณาจักรลดลงสู่ระดับตํ่าสุดในรอบเกือบ 6 ปี

“บริษัทต่างๆ มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจโดยส่วนใหญ่เป็นผลจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่มีเพิ่มมากขึ้น และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากเบร็กซิท” นายคริส วิลเลียมสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากไอเอชเอส มาร์คิต กล่าว

วิลเลียมสันกล่าวด้วยว่า ธุรกิจในอังกฤษมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มอนาคตตํ่าสุดในรอบเกือบ 6 ปี สอดคล้องกับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง โดยความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับตํ่ากว่าในยูโรโซนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี และสวนทางกับความเชื่อมั่นระดับสูงในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจอังกฤษเสี่ยงที่จะเติบโตล้าหลังประเทศอื่นๆ

ทั้งนี้ ไอเอชเอส มาร์คิตกล่าวว่าจำนวนบริษัทของสหราชอาณาจักรที่คาดว่ากิจกรรมทางธุรกิจจะเพิ่มขึ้นในช่วง 12เดือนข้างหน้า มีมากกว่าบริษัทที่คาดว่ากิจกรรมจะลดน้อยลงอยู่ 35% ลดลงจากการสำรวจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ส่วนต่างมีมากถึง 52% และเป็นส่วนต่างที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554

[caption id="attachment_181188" align="aligncenter" width="503"] ‘ธุรกิจผู้ดี’เชื่อมั่นลด สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจระยะสั้นชะลอ[/caption]

ขณะเดียวกันจากการสำรวจความเห็นของบริษัทในสหราชอาณาจักรของสมาพันธ์อุตสาหกรรมแห่งสหราชอาณาจักร หรือซีบีไอในระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน- 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่า 42% ของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน357 บริษัท กล่าวว่าเบร็กซิทส่งผลกระทบกับการลงทุนแล้ว โดยเกือบทั้งหมดกล่าวว่าเป็นผลกระทบในด้านลบ

บริษัทที่กล่าวว่าเบร็กซิทส่งผลกระทบกับการลงทุนให้เหตุผลว่า เนื่องจากความไม่แน่นอนของความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (อียู) อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินปอนด์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯถูกมองว่าส่งผลในด้านบวก ขณะที่บริษัทอีก 58% ที่เหลือระบุว่า เบร็กซิทไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุน

นางเรน นิวตัน-สมิธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของซีบีไอ ให้ความเห็นว่า ในขณะนี้เป็นเรื่องน่าอุ่นใจที่บริษัทส่วนใหญ่ไม่รู้สึกว่าเบร็กซิทส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน แต่จำเป็นต้องคอยจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด “เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจของอังกฤษมีความเชื่อมั่นต่อไปและลดทอนความไม่แน่นอน รัฐบาลจะต้องเร่งทำการตกลงเงื่อนไขในช่วงการเปลี่ยนผ่านและความตกลงทางการค้าในอนาคตโดยเร็ว ด้วยเหตุนี้ซีบีไอจึงเสนอให้อยู่ในตลาดเดียวและสหภาพศุลกากรไปจนกว่าข้อตกลงขั้นสุดท้ายจะมีผลบังคับใช้” นางนิวตัน-สมิธ กล่าว

ด้านบริษัทวิจัย อีวาย ไอเท็มคลับ ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของอังกฤษในปีนี้ลงจาก 1.8% เหลือ 1.5% โดยให้เหตุผลว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลัก จะสูญเสียโมเมนตัมต่อเนื่องจากผลการอ่อนค่าของเงินปอนด์นับตั้งแต่การลงประชามติเมื่อปีก่อน อย่างไรก็ตามแรงกดดันต่อผู้บริโภคจากเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2561

นอกจากนี้ ผลการเลือกตั้งที่นางเทเรซา เมย์ สูญเสียเสียงข้างมากในสภา ช่วยเพิ่มโอกาสที่ผลการเจรจาถอนตัวจากอียูจะออกมาในรูปของ“ซอฟต์เบร็กซิท” นั่นคือการมีข้อตกลงในช่วงเปลี่ยนผ่านและนำไปสู่ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอังกฤษและยุโรปต่อไป ซึ่งจะช่วยหนุนแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลาง และกระตุ้นการลงทุนของภาคธุรกิจในอนาคต

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,280 วันที่ 20 - 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560