กัมพูชาชูสินค้าไทยเกรดพรีเมียม

ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคที่สำคัญในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีการส่งออกผ่านพรมแดนรอบประเทศ โดยเฉพาะกัมพูชา ที่ชื่นชอบสินค้าไทยมาก ทำให้ผู้ประกอบไทยให้ความสนใจการขยายตัวของตลาดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แนวโน้มการลงทุนจะน่าสนใจแค่ไหน คงต้องฟังจากปากคำของ "พล.อ. วิชิต ยาทิพย์" สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่ได้มอบหมายให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา เชื่อมสายสัมพันธ์และการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

  หน้าที่ของสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา

จากการที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็มีผลงานมากมาย เช่น การนำกลุ่มนักธุรกิจเอสเอ็มอี เอสเอ็มแอล ไปค้าขายที่กัมพูชา จัดงานแสดงสินค้าในสองเมืองใหญ่อย่างกรุงพนมเปญและจังหวัดเสียมราฐ 2-3 ครั้ง ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี ได้การตอบรับจากชาวกัมพูชาอย่างมาก สิ่งที่ได้เห็นอย่างชัดเจนคือ คนกัมพูชามีอำนาจในการซื้อสูง และชื่นชอบสินค้าอุปโภค-บริโภคของไทยมากกว่าสินค้าจากประเทศอื่น โดยผู้บริโภคให้ความเห็นว่า สินค้าจากไทยอยู่ในเกรดพรีเมียม และเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา สมาคมได้ส่งนักธุรกิจรุ่นใหม่ไปสานสัมพันธ์กับนักธุรกิจคนรุ่นใหม่กับกัมพูชา เป็นการเชื่อมรอยต่อระหว่างคนรุ่นเดิมกับคนรุ่นใหม่

  เชื่อมโยงการค้าสองประเทศ

สินค้าไทยซึ่งเป็นที่นิยมในกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภค-บริโภคที่มีในซูเปอร์มาร์เก็ตของไทย สบู่ แชมพู เครื่องประทินโฉม หรือแม้แต่ธุรกิจบริการด้านความงาม อย่างวุฒิศักดิ์คลินิค ก็เจริญเติบโตในกัมพูชา ส่วนธุรกิจร้านอาหารก็เริ่มเข้าลงทุนแล้ว ประเทศไทยจึงเป็นศูนย์กลางของธุรกิจค้าขายในภูมิภาคนี้ เป้าหมายของสมาคมคือ ทำให้นักธุรกิจทั้ง 2 ประเทศเติบโตก้าวหน้าไปพร้อมๆ กัน จากเดิม ที่ไทยส่งออกสินค้าอุปโภค-บริโภคในจำหน่ายในกัมพูชา ขั้นตอนต่อไปอาจเข้าไปลงทุนสร้างงานด้วย ล่าสุด สมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือในการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงค์) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงค์)ไปช่วยผู้ประกอบการที่จะไปลงทุนในกัมพูชา ขณะเดียวกัน สมาคมฯก็ต้องมีบทบาทในการเสริมสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบการในกัมพูชาให้ก้าวหน้ามากขึ้น ในการจัดแสดงสินค้าหลายๆครั้งที่ผ่านมา จะเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีกัมพูชานำสินค้าเข้ามาจัดแสดงด้วย

  รับบทบาทเชื่อมการค้าไทย-เมียนมา

เนื่องจาก พล.อ.อเชษฐา ฐานะจาโร นายกสมาคมวัฒนาธรรมเศรษฐกิจไทย-เมียนมา มีปัญหาเรื่องสุขภาพ จึงขอให้ผมรับตำแหน่งนี้แทนเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งแนวทางการบริหารงาน ก็จะเป็นในรูปแบบเดียวกับสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา คือพานักธุรกิจเอสเอ็มอีของไทยไปพาปะนักธุรกิจเมียนมา โดยจะได้รับการสนับสนุนจากเอ็กซิมแบงค์และเอสเอ็มอีแบงค์ในอนาคต ซึ่งศักยภาพในการเติบโตด้านเศรษฐกิจของกัมพูชาและเมียนมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน เป็นตลาดในนักธุรกิจไทยไม่ควรละเลย มีกำลังการซื้อสูงขึ้นมาก

  ปัญหาและอุปสรรค

สำหรับนักธุรกิจไทยที่ต้องการนำสินค้าไปจำหน่ายในกัมพูชาและเมียนมา จำเป็นอย่างยิ่งที่รักษาคุณภาพการผลิตให้ได้มาตรฐานอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเป็นจุดแข็งที่ทำให้สินค้าไทยได้การตอบรับอย่างมากในภูมิภาคซีแอลเอ็มวี ดังนั้น หากละเลย ส่งสินค้าด้อยคุณภาพไปจำหน่ายก็จะได้รับการต่อต้าน ไม่ซื้อสินค้าอีกต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,228 วันที่ 19 - 21 มกราคม 2560