ลุ้น“เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ คนที่ 30 ม้วนเดียวจบ?

02 ส.ค. 2566 | 09:10 น.

ไทม์ไลน์การเมือง 3 ส.ค. ลุ้นศาลรธน.ชี้ชะตา “พิธา” ยังมีสิทธิ์ชิงนายกฯ หรือไม่ ส่วน 4 ส.ค. รัฐสภานัดลงมติเลือกนายกฯ คนที่ 30 “เพื่อไทย” ชงชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” หวังม้วนเดียวจบ

ช่วงปลายสัปดาห์นี้มาลุ้นกันว่า ประเทศไทยจะได้ “นายกรัฐมนตรี คนที่ 30” เลยหรือไม่ หรือจะมีอันต้องเลื่อนออกไปอีก

ตามไทม์ไลน์การเมืองที่สำคัญช่วงปลายสัปดาห์นี้ เริ่มจาก วันที่ 3 ส.ค. เวลา 9.30 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ไว้วินิจฉัยหรือไม่

หลังขอให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” พิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบกับการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ รอบ 2 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

สำหรับผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเบื้องต้น จะออกได้ 3 แนวทาง คือ 1.ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง 2.ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง แต่ไม่มีคำสั่งให้ชะลอการโหวตนายกฯ 3.ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง และมีคำสั่งให้ชะลอการโหวตนายกฯ ไว้ก่อน 

มาลุ้นกันว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังจะมีโอกาสลุ้นตำแหน่งนายกฯ คนที่ 30 อยู่อีกหรือไม่

ลุ้น“เศรษฐา”นั่งนายกฯ

ถัดไป วันศุกร์ที่ 4 ส.ค. 2566 เวลา 09.30 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้นัดประชุมร่วมสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) และ  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ครั้งที่ 3 โดยมีวาระพิจารณาเร่งด่วน 2 เรื่อง คือ 

1.พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  

2. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (ยกเลิกมาตรา272)  ที่นายชัยธวัช ตุลาธน  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับคณะ เป็นผู้เสนอ

แต่ก่อนจะถึงการประชุมเพื่อโหวตนายกฯ ทาง “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะประชุม ส.ส. ของพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการโหวตสนับสนุน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 2 ของพรรค ให้เป็นนายกฯ คนที่ 30

                         ลุ้น“เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ คนที่ 30 ม้วนเดียวจบ?

มั่นใจ 4 ส.ค.ได้นายกฯ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากการพูดคุยกับทั้ง ส.ว. และ ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ จนถึงขณะนี้ ยังแสดงความเห็นตรงกันว่า พร้อมจะยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย แต่ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล อยู่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะหากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ พวกเขาก็ยังยืนยันว่าจะไม่ให้เสียงสนับสนุน

ด้านนายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเลือกนายกฯ  วันที่ 4 ส.ค. ว่า เชื่อว่าพรรคจะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ให้รัฐสภาโหวตตามที่เป็นข่าวออกมาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 

“มั่นใจว่าวันที่ 4 ส.ค.จะสามารถเลือกนายกฯ ได้สำเร็จ เนื่องจากการเลือกตั้งผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้ว ประเทศจำเป็นต้องมีรัฐบาลใหม่ไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จัดทำงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามที่ฝ่ายต่างๆออกมาเรียกร้อง ถ้าการตั้งรัฐบาลช้าออกไปประเทศจะเสียประโยชน์ แนวคิดที่จะให้รอเลือกนายกฯ ไป 10 เดือน เพื่อให้ส.ว.หมดอำนาจ คงเป็นไปได้ยากเพราะประชาชนเขารอรัฐบาลอยู่” 

นายนพดล กล่าวว่า ส่วนสมการรัฐบาลใหม่เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทย ต้องตัดสินใจ ข้อมูลข้อเท็จจริงแต่ละพรรคชัดเจนหมดแล้ว เวลานี้ไม่ใช่เวลาหาข้อมูล แต่เป็นเวลาตัดสินใจบนข้อมูลและท่าทีทางการเมืองของแต่ละพรรคเท่าที่มี 

ส่วนองค์ประกอบของรัฐบาล คงต้องรอฟังคณะเจรจาของพรรคที่จะมาแจ้งส.ส. ในการประชุมพรรควันที่ 3 ส.ค. ว่าสุดท้ายจะเป็นตามที่มีการวิเคราะห์หรือไม่ ส่วนจะเป็นอย่างไรเชื่อว่าพรรคต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ และดีที่สุดในสมการการเมืองและตัวเลือกที่มี โดยเคารพเจตจำนงของประชาชนและเคารพประชาธิปไตย และได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพทางการเมืองเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาของประเทศต่อไป

โหวตนายกฯม้วนเดียวจบ

เช่นเดียวกับ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ที่ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน เสนอต่อรัฐสภาให้โหวตเป็นนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ทั้งนี้จากการปะเมินทิศทางเชื่อว่าจะได้เสียงเกินครึ่งและลงมติจบในวันเดียว ไม่ยืดเยื้อ

“จากที่ฟังเสียงจากภาคธุรกิจ ก็อยากให้มีรัฐบาลมาแก้ปัญหาประเทศโดยเร็วที่สุด จะให้รอไปโหวตเลือกนายกฯ อีก 10เดือน คงรอไม่ไหว ส่วนเสียงโหวตจะได้เพิ่มจากฝ่ายใดบ้าง ในวันที่ 4 ส.ค. ผมยังตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ร่วมทีมเจรจา แต่เท่าที่ฟังจากผู้ใหญ่ในพรรคบอกว่า มีทิศทางในทางที่ดี ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง” นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายวิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการฟอร์มทีมรัฐบาลนั้น จะพิจารณาหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนโหวตนายกฯ แล้ว โดยต้องพิจารณาว่ามีพรรคใดบ้างที่จะมาร่วมรัฐบาล มีเคมีตรงกัน ไปด้วยกันได้หรือไม่

“ถ้าเอาพรรคที่มีเคมี อุดมการณ์ไม่ตรงกันมาร่วมงานคงโดนประชาชนด่า ปัจจัยเหล่านี้ต้องนำมาพิจารณาในการตั้งรัฐบาล ยอมรับว่า เราก็มีความหนักใจอยู่ คงจำเป็นต้องแยกแยะกันระหว่างเสียงที่โหวตให้เป็นนายกฯ กับพรรคที่จะมาเป็นรัฐบาลร่วมกัน ต้องให้ตัวนายกฯ คนใหม่พิจารณาด้วยว่า จะทำงานร่วมกับฝ่ายใดบ้าง” นายวิสุทธิ์ กล่าว

พปชร.เชื่อ 4 ส.ค.จบแน่ 

นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกฯ ของพรรค พปชร. ในวันที่ 4 ส.ค.ว่า พรรคยังไม่มีมติเรื่องนี้ เพราะยังไม่ทราบว่าจะมีการเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ หรือมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ต้องดูก่อนถึงจะตัดสินใจได้ 

ส่วนการโหวตในวันที่ 4 ส.ค.จะจบหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า เชื่อว่าถ้ามีการเสนอชื่อในวันนั้น ก็จบ เพราะพรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์ในการจัดตั้งรัฐบาล เขาคงมีความพร้อม ไม่เช่นนั้นก็ต้องเสียแคนดิเดตนายกฯ ไป 1 คน ซึ่งคงเป็นแบบนั้นไม่ได้ 

สำหรับกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยมีการดีลตั้งรัฐบาลกับพรรค พปชร.แล้ว นายไผ่ ปฏิเสธว่า ไม่มี ถ้าดีลกันเรียบร้อยจริง คงต้องมีการแถลงข่าว คิดว่าข่าวที่ออกมาเป็นการคิดไปเอง หรือ วิเคราะห์ตามความน่าจะเป็นมากกว่า ตนคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคหลายคน ก็ยังไม่มีความชัดเจน

ส.ว.พร้อมหนุน"เศรษฐา" 

ส่วนท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.นั้น นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา  1 ใน 13 ส.ว. ที่โหวตเห็นชอบให้ นายพิธา เป็นนายกฯ กล่าวย้ำว่า ยังคงยึดในหลักการเดิมคือ พร้อมสนับสนุนพรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ และหากพรรคเพื่อไทย(พท.) จะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณา ตนก็พร้อมลงมติให้ความเห็นชอบ

“มั่นใจด้วยว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ด้วย จะยิ่งทำให้การจัดตั้งรัฐบาลประสบผลสำเร็จ เพราะจะได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.จำนวนมาก” 

นายวันชัย เห็นว่า พรรคเพื่อไทย มีศักยภาพมากกว่าพรรคก้าวไกล ทั้งการประสานติดต่อพรรคการเมือง และ ส.ว. จึงเชื่อว่า จะทำให้มีพรรคพวกที่ให้ความร่วมมือมากกว่า

“ผมมั่นใจว่าในการลงมติเลือกนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. มากกว่า 13 เสียง และหากลดเงื่อนไขต่างๆ ลงด้วย ก็จะยิ่งได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้น เพราะจากพรรคพวก และจากผลการประชุมครั้งที่ผ่านมา สะท้อนชัดเจนว่า ถ้าไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลด้วย ส.ว.ก็ไม่น่าจะมีปัญหานายเศรษฐา" นายวันชัย กล่าว