เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี หรือ Asian Network for Free Elections (ANFREL) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ตรวจการเลือกตั้ง จัดประชุมแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในกรุงเทพฯ เมื่อวันพุธ (17 พ.ค.) ระบุถึงการพัฒนาด้าน “ความโปร่งใส” ของ การเลือกตั้ง ครั้งล่าสุดของไทยที่เกดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566 ว่า การเลือกตั้งของไทยครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ มี อัตราส่วนผู้ออกมาใช้สิทธิ ในระดับสูงกว่า 39 ล้านคน หรือกว่า 75% จึงขอแสดงความยินดีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งของไทย หรือ กกต. ที่สามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างมีระเบียบและสงบ และส่วนใหญ่ยอมรับได้
รอฮานา เฮตตียาราชชี หัวหน้าโครงการของ ANFREL กล่าวว่า เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว (ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2562) ในครั้งนี้ กกต.สามารถประกาศผลเบื้องต้นได้ภายใน 48 ชม.
“เราเห็นการนับคะแนนที่เปิดกว้าง ส่วนใหญ่ของคูหาลงคะแนนมีความโปร่งใส และเปิดกว้างต่อสาธารณชน การเลือกตั้งโดยรวม ซึ่งรวมถึงการเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นไปอย่างมีระเบียบ ส่วนใหญ่มีการจัดการที่เหมาะสมและมีผู้ออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก"
ทั้งนี้ ANFREL ได้ส่งผู้สังเกตการณ์หลายสิบคนกระจายไปตามคูหาเลือกตั้ง 460 แห่งในวันเลือกตั้ง รวมทั้งสังเกตการณ์ในช่วงการหาเสียงและการเลือกตั้งล่วงหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนากระบวนการทางประชาธิปไตยในประเทศไทย
ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายงานของ ANFREL ระบุถึง “แนวทางเพิ่มเติม” ที่สามารถทำให้การเลือกตั้งมีความโปร่งใสยิ่งขึ้น โดยได้ขอให้รัฐสภาไทยผ่านกฎหมายรับรองให้ผู้ที่มีส่วนในการเลือกตั้ง รวมทั้งพรรคการเมือง สื่อมวลชน และผู้สังเกตการณ์ สามารถติดตามทุกขั้นตอนของกระบวนการเลือกตั้งได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการลงคะแนนที่คูหา การนับคะแนน การคำนวณผล ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับผลการเลือกตั้งให้ประชาชนเข้าถึงได้
อามาเอล เวียร์ เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโสของ ANFREL กล่าวว่า "หลังจากการนับคะแนนที่คูหาแล้วต้องมีการรวมคะแนนจากคูหาต่าง ๆ เพื่อแจ้งผลอย่างเป็นทางการตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการนี้ยังไม่เปิดกว้างในประเทศไทย พรรคการเมือง สื่อมวลชนและผู้สังเกตการณ์ยังไม่สามารถเข้าถึงได้"
ANFREL ชี้ด้วยว่า การเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้วมีข้อบกพร่องอย่างมากในการนับคะแนนรวมในระดับชาติ ผลการเลือกตั้งที่ล่าช้า และการซื้อเสียง
รายงานของ ANFREL ยังระบุถึงการขาดหลักฐานรองรับที่ชัดเจนที่ทำให้ประชาชนไม่ออกมารายงานการซื้อเสียงในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง รวมทั้งความกังวลความปลอดภัยของตนเอง
ที่มา วีโอเอ