สนามเลือกตั้ง 2566 ปทุมแข่งเดือดพลังประชารัฐหวังปักหมุดถิ่นเพื่อไทย

12 พ.ค. 2566 | 04:19 น.

สนามเลือกตั้ง 2566 ปทุมแข่งเดือดพลังประชารัฐหวังปักหมุดถิ่นเพื่อไทย หลังส่งกำนันหมู นายยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า ลงสู้คะแนนตีตื้นโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งจริง 14 พ.ค. 66

ศึกเลือกตั้ง 2566 รอบนี้พื้นที่หนึ่งที่น่าจับตามอง ได้แก่ พื้นที่เขต 4 ปทุมธานี ย่านธัญบุรี คลองหลวง โดยพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นฐานเสียงหลักของพรรคการเมืองฝั่งเสรีนิยม โดยเฉพาะเพื่อไทยที่กวาดที่นั่งติดต่อกันมาหลายสมัย

อย่างไรก็ดี เลือกตั้งรอบนี้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่ง กำนันหมู นายยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า ลงสู้ศึก ซึ่งจากรายงานล่าสุดพบว่า คะแนนนิยมกำลังตีตื้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้าย 

สำหรับพรรคพลังประชารัฐนั้น เสนอ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ภายใต้สโลแกน ก้าวข้ามความขัดแย้ง พร้อมร่วมมือประสานทุกฝ่ายเพื่อหาทางของประเทศร่วมกัน

สำหรับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 2566 นี้ เน้นด้านสวัสดิการเป็นส่วนใหญ่ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาทต่อเดือน โดยเชื่อว่าจะก่อให้เกิดการหมุนเวียน 735,336 ล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจมหภาคขยายตัวได้ 0.6% ต่อปี

 

นโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะมีการดูแลผู้สูงแบบขั้นบันได โดย 60 ปีขึ้นไปจะได้รับ 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไป จะได้รับ 4,000 บาท และอายุ 80 ปีขึ้นไปจะได้รับ 5,000 บาท เชื่อว่าจะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียน 3 ล้านล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจมหภาคขยายตัวได้ 2.5% ต่อปี

สนามเลือกตั้ง 2566 ปทุมแข่งเดือด

นโยบายเติมเงินทุนช่วยเหลือเกษตรกร 8 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละ 30,000 บาท ปุ๋ยคนละครึ่ง ซึ่งภาครัฐจะช่วยเหลือค่าปุ๋ย 50% และเพิ่มเงินช่วยเหลือต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนา อัตราไร่ละ 2,000 บาท  จำนวนไม่เกิน 15 ไร่ รวมเป็น 30,000 บาท คาดว่าจะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียน 1.4 ล้านล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจมหภาคขยายตัวได้ 1.2% ต่อปี

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน โดยประกาศ ลดราคาแก๊ส ค่าไฟฟ้า และน้ำมันลงทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 18 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลด 6.30 บาทต่อลิตร 

ส่วนมาตรการลดราคาแก๊ส ตั้งเป้าเหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญ คือ ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย

พรรคพลังประชารัฐ ยังมีนโยบายโซลาร์รูฟทอป โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียน 7.2 แสนล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจมหภาคขยายตัวได้ 0.6% ต่อปี

นโยบาย 1 อบต. 1 โซลาร์ฟาร์ม คาดว่าจะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียน 7.2 แสนล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจมหภาคขยายตัวได้ 0.6%ต่อปี

นโยบายเปลี่ยนรถน้ำมันเป็นรถไฟฟ้า คาดว่าจะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียน 1.2 ล้านล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจมหภาคขยายตัวได้ 1% ต่อปี

นอกจากนี้ ยังจะจัดตั้งองค์กรทรัพยากรพลังงานแห่งชาติ ให้เป็นผู้รับประโยชน์จากสัมปทานแหล่งก๊าซและน้ำมันที่จะทยอยหมดอายุลง โดยภายใน 4 ปี รัฐจะมีรายได้เพิ่มขึ้นปี 1 แสนล้านบาท เสริมเข้ามาเป็นงบประมาณแผ่นดิน

นโยบาย ‘แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ‘ แจกเงินคนท้องเดือนละ 10,000 บาท ในเดือนที่ 5 เดือน จนกว่าจะคลอด และเงินช่วยดูแลลูกอีกเดือนละ 3,000 บาท จนถึง 6 ขวบ