บอร์ด กสทช.ยังไม่อนุมัติ “เทเลเฮลท์” มูลค่า 3,500 ล้าน นัดถก 29 มี.ค.

15 มี.ค. 2566 | 07:35 น.

บอร์ด กสทช.ยังไม่อนุมัติ “เทเลเฮลท์” มูลค่า 3,500 ล้านบาท นัดถก 29 มี.ค. เผยโครงการเลื่อนเกือบปี ส่วนสรรหาเลขา ลั่นไม่ได้ใช้อำนาจ

ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยถึงผลการประชุมบอร์ดในวันนี้ (15 มี.ค.66 )  การประชุมบอร์ดเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น. แล้วเสร็จเวลา 13.45 น. โดยที่ประชุมพิจารณาโครงการโทรเวชกรรมถ้วนหน้า (Universal Telehealth Coverage : UTHC) หรือ เทเลเฮลท์  มูลค่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นไป ตามโครงการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง(Universal Service Obligation:USO) ที่ประชุมในวันนี้เป็นการพิจารณากรอบใหญ่  ซึ่งโครงการ เทเลเฮลท์ เป็นหนึ่งใน 13 โครงการย่อย ใช้งบประมาณ 3,500 ล้าน  จากโครงการทั้งหมด  8,000 ล้านบาท  การพิจารณา เทเลเฮลท์ วันนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ที่ประชุมบอร์ด กสทช.จึงนัดประชุมอีกรอบในวันที่ 29 มี.ค.66

 

สำหรับ เทเลเฮลท์ จะครอบคลุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต.ทั่วประเทศจำนวน 1,194  โรงพยาบาลทั่วประเทศ หากโครงการนี้แล้วเสร็จคาดหวังครอบคลุมผู้ป่วยได้ 5-10% ของผู้ป่วยที่ลงทะเบียนจากกระทรวงสาธารสุข  กระทรวงมหาดไทย  และ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. จำนวน 500,000 คน หรือ ครอบคลุมผู้ป่วย 5 หมื่นคนก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

“โครงการเทเลเฮลท์ กสทช. ทำในลักษณะโครงการนำร่องขนาดใหญ่ หากทำแบบขนาดย่อม  ไม่เกิดประโยชน์ขึ้นจริงเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ การนำร่องขนาดใหญ่ทำให้ครอบคลุมเชื่อมต่อให้ทั่วถึง”

 ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์

ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โครงการเทเลเฮลท์ ไม่ได้เป็นโครงการที่ซ้ำซ้อนกับ กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส จะทำไปด้วยกันเพื่อได้ประโยชน์ทั้งคู่ ต้องมีมาตรฐานเดียวกัน โดยจะมีกฎหมายรองรับสิ่งเหล่านี้ มีคณะทำงานเข้ามาร่วมบริหารจัดการ ทางกระทรวงสาธารณสุข จากแพทย์สภา กรมบัญชีกลาง ฯลฯ มาช่วยกันคิดและทำเป็นสิ่งที่กระทรวงต้องการและร่วมมมือจากหลายหน่วยงาน ใช้โครงสร้างพื้นฐานและต่อยอดให้เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์  กล่าวถึงเรื่องการลงคะแนนเสียงใช้อำนาจตัวเองโหวต 4;3 นั้น ตามมาตรา 60 หรือ 61 ของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ 2533 ประธาน กสทช.มีอำนาจแต่งตั้งและปลด ซึ่งประธานมีอำนาจหน้าที่ และ ไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมายเพราะกฏหมายเขียนไว้ชัดเจนอย่างนั้น

“ผมอ่านกฎหมาย และได้ส่งให้ที่ปรึกษากฎหมายแปล ผมไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย บอร์ด กสทช. มีความเห็นไม่ตรงกัน เป็นความงดงามของบอร์ด เพราะ ทุกคนไม่เห็นเหมือนกันหมด ถ้าเห็นเหมือนกันหมด คือ บริษัท ไม่เห็นตรงกันมีมติตัดสินใจเพราะทุกคนมีพื้นฐานไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำ คือ ทำตามกฏหมาย ซึ่ง เลขาธิการ กสทช. ทำหน้าที่ขึ้นตรงกับประธานกรรมการ กสทช. และ ต้องทำงานเข้าขากับประธานกรรมการเช่นเดียวกัน”

สำหรับการสรรหา กสทช. เปิดรับสมัครภายในเร็วๆ นี้ กระบวนการคัดเลือกใช้ระยะเวลา 14 วัน คาดว่าจะมีผู้สมัครจำนวน 10 คน