Apple เปิด iPad (รุ่นที่ 9) ใหม่ ชิป A13 Bionic เริ่มต้นเพียง 11,400 บาท

14 ก.ย. 2564 | 18:26 น.

Apple เปิดตัว iPad (รุ่นที่ 9) ใหม่ ที่มาพร้อมชิป A13 Bionic อันทรงพลังซึ่งนำประสิทธิภาพและความสามารถที่เหนือกว่าเดิมมาให้กับ iPad เป็นที่นิยมที่สุด และยังคงมอบอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานตลอดวัน เริ่มต้นเพียง 11,400 บาท

“ไม่เคยมีครั้งไหนที่ iPad จะจำเป็นสำหรับการทำงาน การเรียน และการสื่อสารเท่านี้มาก่อน และเรายังตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับการอัปเกรดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ iPad ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด” Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “ด้วยชิป A13 Bionic อันทรงพลัง วิดีโอคอลที่น่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" และความจุที่มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า iPad ใหม่จึงมาพร้อมความสามารถอันล้ำสมัย ความอเนกประสงค์ และความเรียบง่าย ทั้งหมดนี้ในราคาที่ไม่น่าเชื่อ”

Apple เปิด iPad (รุ่นที่ 9) ใหม่ ชิป A13 Bionic เริ่มต้นเพียง 11,400 บาท

iPad ใหม่มาพร้อมชิป A13 Bionic อันทรงพลัง ที่มอบประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และทำให้ iPad ใหม่เร็วกว่า Chromebook รุ่นที่ขายดีที่สุดถึง 3 เท่า และเร็วกว่าแท็บเล็ต Android รุ่นที่ขายดีที่สุดอย่างเทียบกันไม่ติดถึง 6 เท่า โดยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานแอปขั้นสูงและเกมบน iPad รุ่นที่เป็นเจ้าของได้อย่างต่อเนื่องและง่ายที่สุด Neural Engine ในชิป A13 Bionic ยังเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนความสามารถด้านการเรียนรู้ของระบบของอุปกรณ์ซึ่งรวมไปถึง คุณสมบัติ "ข้อความในภาพ" ใน iPadOS 15 ที่ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพและให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้

 

ประสบการณ์ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" บน iPad Pro มีให้ใช้งานแล้วบน iPad ด้วยประสิทธิภาพของกล้องหน้าอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP และ Neural Engine ผู้ใช้จึงสามารถเพลิดเพลินกับวิดีโอคอลที่น่าสนใจยิ่งกว่าที่เคย โดยในขณะที่ผู้ใช้ขยับไปมา กล้องจะแพนตามการเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้อยู่ในสายตาเสมอ และถ้ามีคนอื่นมาร่วมด้วย กล้องก็สามารถตรวจจับได้ และจะซูมออกอย่างลื่นไหลเพื่อจัดให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนา คุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" ทำให้การโทรวิดีโอคอลใน FaceTime เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ทั้งยังรวมไปถึงแอปวิดีโอคอลจากบริษัทอื่นด้วย ดังนั้น ไม่ว่าจะอัปเดตข่าวคราวกับคนสำคัญ หรือใช้ iPad ในการเรียนรู้จากระยะไกล คุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" ก็ช่วยให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อทั้งดึงดูดและน่าสนใจยิ่งกว่าที่เคย

เป็นครั้งแรกที่การแสดงผลแบบ True Tone มาในจอภาพ Retina ที่สวยงามบน iPad เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบที่อัปเกรดมาใหม่ทำให้สามารถใช้งานการแสดงผลแบบ True Tone ซึ่งจะปรับคอนเทนต์บนหน้าจอให้สอดคล้องกับอุณหภูมิสีของห้อง การแสดงผลแบบ True Tone บน iPad ใหม่ทำให้รูปภาพดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และมอบประสบการณ์การดูที่สบายตายิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้ในทุกสภาพแสง

ด้วยดีไซน์ที่บางและเบา พร้อมตัวเลือกระบบเซลลูลาร์ iPad มอบอิสระแก่ผู้ใช้ในการทำงาน เรียน เล่น และเชื่อมต่อทั้งที่บ้านหรือขณะเดินทาง iPad ใหม่เริ่มต้นที่ความจุ 64GB ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า จึงหมายถึงความคุ้มค่าที่มากขึ้นสำหรับผู้ใช้ iPad ด้วย และยังมีตัวเลือก 256GB สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเก็บแอป เกม รูปภาพ และวิดีโอได้มากขึ้น

iPadOS 15 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากความสามารถเฉพาะตัวของ iPad ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้ความอเนกประสงค์ของ iPad ให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่าเดิม

•            การทำงานแบบมัลติทาสก์ที่ง่ายดายขึ้นกว่าเดิมด้วยการทำให้คุณสมบัติอย่าง Split View และ Slide Over สามารถค้นพบได้ง่ายขึ้น ใช้งานได้ง่ายขึ้น รวมทั้งทรงพลังกว่าเดิม

•            ส่วนเลย์เอาท์วิดเจ็ตใหม่สำหรับหน้าจอโฮมและคลังแอปช่วยให้สามารถปรับแต่งประสบการณ์การใช้งาน iPad ให้เหมาะกับบุคคลรวมถึงจัดระเบียบแอปได้

•            และตอนนี้การจดโน้ตก็สามารถทำได้แล้วทั้งระบบด้วย Quick Note ที่มอบวิธีใหม่ๆ ในการทำงานร่วมกันและจัดระเบียบสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหรือพิมพ์ด้วย Apple Pencil

•            แอปแปลภาษามาอยู่บน iPad พร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ทำให้การสนทนาง่ายและเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม ซึ่งรวมไปถึงการแปลภาษาอัตโนมัติ และมุมมองแบบเห็นหน้าด้วย

•            คุณสมบัติ "ข้อความในภาพ" ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพแล้วให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้ ตัวอย่างเช่น ภาพถ่ายหน้าร้านอาจแสดงหมายเลขโทรศัพท์และตัวเลือกให้โทรไป

•            โหมดโฟกัสช่วยผู้ใช้คัดกรองการแจ้งเตือนตามสิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน เช่น ทำงาน อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย เล่นเกม หรือนอนหลับ

•            การโทร FaceTime ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นด้วยระบบเสียงตามตำแหน่งและโหมดภาพถ่ายบุคคลใหม่ และตอนนี้การโทร FaceTime แบบกลุ่มยังมีตัวเลือกให้แสดงผู้เข้าร่วมเป็นช่องภาพขนาดเท่าๆ กันในมุมมองตารางแบบใหม่อีกด้วย

ราคาและการวางจำหน่าย

•            iPad รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 11,400 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular เริ่มต้นที่ 16,400 บาท ในสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ iPad ใหม่เริ่มต้นที่ความจุ 64GB มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า และยังมีตัวเลือก 256GB วางจำหน่ายเช่นกัน

•            iPadOS 15 ระบบปฏิบัติการทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ จะเปิดให้ใช้งานโดยเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 21 กันยายน และจัดส่งฟรีพร้อม iPad ใหม่ iPadOS 15 จะเปิดให้ใช้งานในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ iPad mini 4 และใหม่กว่า, iPad Air 2 และใหม่กว่า, iPad รุ่นที่ 5 และใหม่กว่า และ iPad Pro ทุกรุ่น

•            Apple Pencil (รุ่นที่ 1) ที่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad (รุ่นที่ 9) มีวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 3,400 บาท

•            Smart Keyboard สำหรับ iPad มีวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 5,290 บาท ซึ่งมาพร้อมเลย์เอาท์กว่า 30 ภาษา รวมถึงจีนตัวย่อ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ญี่ปุ่น และสเปน

•            Smart Cover สำหรับ iPad มีวางจำหน่ายในราคา 2,290 บาท ในสีดำ สีขาว และสีอิงลิชลาเวนเดอร์