บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานที่ยังคงเติบโตและกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลกำไร 1.8 พันล้านบาท
ดร. กิตติณัฐ ทีคะวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของกลุ่มทรูเติบโตและสร้างผลกำไรต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าและบริการ ซึ่งช่วยเพิ่มฐานลูกค้าคุณภาพและสร้างความผูกพันของลูกค้าต่อกลุ่มทรูได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่มทรูยังคงเติบโตสูงเหนืออุตสาหกรรม โดยทรูมูฟ เอช เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่มีฐานลูกค้าที่เติบโตในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ทำให้รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 นอกจากนี้ การมุ่งเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้าด้วยการผสานบริการไฟเบอร์บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต 1 Gbps พร้อมคอนเทนต์และบริการด้านดิจิทัลครบวงจร รวมถึงสิทธิประโยชน์มากมายภายใต้กลุ่มทรู สร้างความแตกต่างและความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งให้แก่กลุ่มทรูได้อย่างชัดเจน โดยกลุ่มทรูจะยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบนิเวศแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งจะสานความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพื่อให้กลุ่มทรูเติบโตเข้มแข็งได้อย่างต่อเนื่องทั้งด้านผลการดำเนินงานและผลประกอบการทางการเงิน
ขณะที่นายศิริพจน์ คุณากรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า ปัญจุบัน ทรูมูฟ เอช มีสถานีฐานเครือข่ายจำนวนมากกว่า 76,000 สถานี รวมทั้งพื้นที่ให้บริการทรูไวไฟอีกมากกว่า 1 แสนจุด และทรูออนไลน์มีเครือข่ายไฟเบอร์บรอดแบนด์ที่ครอบคลุมแล้วกว่า 15 ล้านครัวเรือน
ทรูมูฟ เอช ยังคงเติบโตแข็งแกร่งและผลักดันการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม โดยมีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็น 19.5 พันล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2562 ส่วนใหญ่จากการเติบโตของกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือนและรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้ามากกว่าร้อยละ 3 โดยการเติบโตอย่างสูงของทรูมูฟ เอชนี้ เป็นผลจากจุดแข็งด้านเครือข่ายคุณภาพสูง แคมเปญทางการตลาดที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุด การผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้าเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและเข้าถึงลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเปิดตัว “CMLink TrueMove H ซิม 4G ไร้พรมแดน ไทย-จีน” ผ่านความร่วมมือกับไชน่าโมบายล์อินเตอร์เนชั่นแนล (ซีเอ็มไอ) ได้รับผลตอบรับที่ดี ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้บริการโทรศัพท์ข้ามแดนระหว่างประเทศจากลูกค้าของพาร์ทเนอร์ (inbound traffic) ส่งผลให้รายได้จากบริการโทรศัพท์ข้ามแดนระหว่างประเทศของทรูมูฟ เอช เติบโตในอัตราเลขสองหลักจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 2 ปี 2562 ทรูมูฟ เอช มีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิประมาณ 229,200 ราย และขยายฐานลูกค้ารวมเพิ่มขึ้นเป็น 29.8 ล้านราย ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดฐานลูกค้าของทรูมูฟ เอช เติบโตเป็นร้อยละ 32.4
ทรูออนไลน์ มีลูกค้าบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตรายใหม่สุทธิมากกว่า 64,000 ราย ขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 ล้านราย และผลักดันรายได้ให้เติบโตจากไตรมาสก่อนเป็น 6.3 พันล้านบาท
ทรูวิชั่นส์ มีรายได้จากการให้บริการที่เติบโตร้อยละ 3.7 จากไตรมาสก่อนเป็น 3.0 พันล้านบาท หนุนโดยรายได้จากธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์โดยเฉพาะการจัดคอนเสิร์ตเกาหลีในระหว่างไตรมาส ทั้งนี้ ทรูวิชั่นส์มุ่งพัฒนาและนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพสูงเพื่อตอบสนองความชอบของลูกค้าได้ตรงจุด อีกทั้งความร่วมมือและการผสานประโยชน์จากหลากหลายแพลตฟอร์มของกลุ่มทรูโดยเฉพาะกล่อง TrueID TV สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและขยายฐานผู้ชมคอนเทนต์เพิ่มเติมจากฐานลูกค้ากว่า 4 ล้านรายของทรูวิชั่นส์ได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 ฤดูกาล 2019/20 – 2021/22 ทั้งการถ่ายทอดสด รีรัน และ ไฮไลท์ ครบทั้ง 380 แมตช์ ผ่านทุกแพลตฟอร์มทั้งทีวี ออนไลน์และดิจิทัล นับเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตของรายได้จากคอนเทนต์ทั้งแพ็กเกจของทรูวิชั่นส์และการ sublicense บางแมตซ์ให้ผู้บริการฟรีทีวีรายอื่น รวมถึงรายได้จากการโฆษณาในทุกช่องทางทั้งโทรทัศน์ มีเดียและดิจิทัล
ทรูดิจิทัลกรุ๊ป พัฒนาแพลลตฟอร์มทรูไอดี จำนวนผู้ใช้บริการต่อเดือนมากกว่า 19 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2562 โดยแพลตฟอร์ม ทรูไอดี ได้รวบรวมคอนเทนต์บันเทิงคุณภาพสูง ทั้งภาพยนตร์ รายการทีวี ดนตรี กีฬา
ล่าสุดไมีอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อและใช้บริการมากกว่า 193,000 อุปกรณ์ ซึ่งเติบโตร้อยละ 14 จากไตรมาสก่อนหน้า