อาร์เอ็กซ์ จีนรุกคืบสร้างความร่วมมือ "จีน-ไทย" บุกตลาดรถยนต์ "NEV"

23 มิ.ย. 2566 | 09:48 น.

อาร์เอ็กซ์ จีนรุกคืบสร้างความร่วมมือ "จีน-ไทย" บุกตลาดรถยนต์ "NEV" ชวนค่ายรถยนต์ไทยลุยงาน Automotive World China 2023 มุ่งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นายบรู๊ซ ชู (Bruce Xu) ผู้จัดการโครงการ อาร์เอ็กซ์ เกรทเทอร์ ไชน่า เปิดเผยว่า รัฐบาลเมืองเสิ่นเจิ้น และ RX ได้ดำเนินการจัดงาน Automotive World China หรือ AWC 2023  งานแสดงด้านการผลิตยานยนต์ที่ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานทั้งยานยนต์พลังงานใหม่และยานยนต์สันดาป  

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายใต้แนวคิด Define the future of Automotive Manufacturing หรือการกำหนดอนาคตการผลิตยานยนต์ โดยจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 500 แบรนด์ รวมทั้งผู้นำในวงการอย่าง BYD, Siemens, Bosch, Valeo, Neolithic, Autosar, Fivotai, HAN’S LASER, AutoX เป็นต้น 

โดยจะมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นสำหรับยานยนต์พลังงานใหม่หรือ NEV (New Energy Vehicle) และยานยนต์สันดาป หรือ ICV เช่น ชิปสำหรับแผงวงจรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ วัสดุมวลเบา และโรงงานอัจฉริยะ เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์ได้ค้นพบนวัตกรรมแอปพลิเคชั่น ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะสำหรับการผลิตยานยนต์ และห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้สามารถผลิตยานยนต์ NEV และ ICV ได้อย่างมีขีดความสามารถทางการแข่งขันในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สำหรับไตรมาสแรกของปีนี้ จีนได้กลายเป็นประเทศส่งออกยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยส่งออกทั้งหมด 1,070,000 คัน เป็นยานยนต์พลังงานใหม่ 248,000 คัน ซึ่งในส่วนของตลาดยานยนต์สันดาป รถที่จีนผลิตนั้นไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นหรือแตกต่างไปกว่าในเรื่องของแบรนด์ เทคโนโลยี และคุณภาพ 

อาร์เอ็กซ์ จีนรุกสร้างความร่วมมือจีน-ไทยตลาดรถยนต์ NEV

อย่างไรก็ดี หากพูดถึง NEV จีนมีการพัฒนาและเติบโตไปอย่างรวดเร็ว และมีอัตราการเติบโตมากกว่ารถยนต์สันดาป โดยสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนรายงานว่า ในปี 2565 จีนมีการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ 7,058,000 คัน มียอดขาย 6,887,000 คัน นับเป็นการเติบโตสูงถึง 97% และ 94% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

"การพัฒนาการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนนั้น เพราะผู้บริโภคทางเอเชียมองว่ารถยนต์คือส่วนต่อขยายของบ้าน จึงต้องการความสะดวกสบายและประสบการณ์การขับขี่ที่อัจฉริยะขึ้น ทำให้จีนต้องพัฒนาเทคโนโลยีด้าน AI และการขับขี่อัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง"
 
นายบรู๊ซ ชู กล่าวอีกว่า งาน AWC 2023 คาดว่าจะมีนักอุตสาหกรรมเข้าร่วมงานกว่า 30,000 รายจากทั่วโลก ประกอบไปด้วยผู้รับผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมทั้งผู้ออกแบบระบบ ผู้ร่วมงานชาวต่างชาติกว่า 1,500 รายจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และยุโรป โดยเชื่อว่าจะมีการพบปะพูดคุยเพื่อเจรจาทางธุรกิจหลายพันคู่ที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือและการลงทุนในอตสาหกรรม NEV และ ICV
 

นอกจากนี้ งาน AWC 2023 ยังมุ่งที่จะส่งเสริมการเจรจาและการร่วมมือระหว่างนักอุตสาหกรรมไทยและจีน โดยจะเป็นเวทีทางธุรกิจที่จะทำให้ผู้ร่วมงานได้พบสินค้าจากผู้ผลิตชิ้นส่วน Tier 1 หรือ Tier 2 เพื่อทำให้ซัพพลายเชนแข็งแกร่งขึ้น 

รวมถึงมองหาโอกาสการร่วมมือกัน โดยภายในงานจะมีกิจกรรมสำหรับผู้ร่วมงานชาวไทยอย่าง Thailand Country Day หรือวันประเทศไทย ที่สมาคมไทยจะได้นำเสนอภาพรวมตลาดไทยเพื่อโอกาสในการร่วมมือข้ามชาติ หรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนสามารถนำเสนอนโยบายการลงทุนในไทยให้กับอุตสาหกรรมจีน และ Factory Visit หรือการเยี่ยมชมโรงงาน โดย AWC 2023 จะจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมโลกเซินเจิ้น เมืองเสิ่นเจิ้น ระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2566