ในวันที่โลกรวน Sustainability สำคัญแค่ไหน เจาะลึก 5 เทรนด์ ปี 2023

31 ม.ค. 2566 | 03:09 น.

ในวันที่โลกรวน Sustainability หรือความยั่งยืน สำคัญแค่ไหน ชวนเจาะลึก 5 เทรนด์ ในปี 2023 มีอะไรที่น่าจับตาบ้าง

รายงาน Global Risks Report 2023 จัดทำโดย World Economic Forum ชี้ให้เห็นว่าโลกของเราก็กำลังเผชิญความท้าทายจากความเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเงินเฟ้อ วิกฤตค่าครองชีพ สงครามการค้า ภาวะเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ความไม่สงบในสังคม ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ความกังวลเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์ แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้นานาชาติต้องเร่งร่วมมือกันแก้ปัญหาต่างๆ

ที่ผ่านมาจึงมักจะได้ยินคำว่า “Sustainability” อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็คือ "ความยั่งยืน" ในมุมของสิ่งแวดล้อม หมายถึงความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องอาศัยการพัฒนาความยั่งยืน ตอบสนองความต้องการของคนในรุ่นปัจจุบัน โดยไม่ทำให้คนในอนาคตมีขีดจำกัดในการใช้ทรัพยากรนั้น

ประชาคมโลก มีการตั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ตั้งแต่ พ.ศ. 2558 โดยมีทั้งหมด 17 เป้าหมาย 230 ตัวชี้วัด ทั้งความยากจน การศึกษา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงาน เมือง และสิ่งแวดล้อม ภาคเอกชนคือตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมาย

ขณะที่ในประเทศไทยและต่างประเทศนิยมจัดทำเผยแพร่กันก็คือ "รายงานความยั่งยืน" (Sustainability Report) เป็นผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลของบริษัท

ภาคธุรกิจก็ไม่ได้มองข้าม แนวคิดการลงทุน ESG แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน จาก 3 คำ คือ Environment, Social, และ Governance  ข้อมูลจาก MSCI ESG Research LLC ระบุว่านักลงทุนกลุ่ม “Gen Y” เป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่มีทั้งรายได้และกำลังซื้อ ประชากรร้อยละ 95 ของคนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืนในกลุ่ม ESG ในขณะเดียวกันผู้บริโภคในกลุ่ม “Gen Z” ก็เติบโตและเริ่มเข้ามามีบทบาททั้งต่อภาคเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงภาคการลงทุนมากขึ้น

ในด้านอุตสาหกรรม มีการสำรวจจาก  IDC ระบุว่า อาหารและเครื่องดื่มเกือบ 30% ที่ลูกค้าความต้องการสำหรับผลิตภัณฑ์และข้อเสนอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

ลดเศษอาหาร

เศษอาหารก่อให้เกิดความท้าทายระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นความหิวโหยและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีการประเมินว่าเศษอาหารปล่อยมลพิษทั่วโลก 8-10% ระหว่างปี 2010 ถึง 2016 ตามที่ระบุไว้โดยคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มต้องคำนึงถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการปรับปรุงความมั่นคงด้านอาหาร และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็นในการหาทางออกใหม่ๆ เพื่อลดขยะอาหาร 

ประหยัดพลังงานน้ำและไฟฟ้า

เป็นต้นทุนที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และมีส่วนอย่างมากต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผู้แปรรูปอาหารและเครื่องดื่มมองหาวิธีใหม่ๆ ในการลดการปล่อยมลพิษ การลงทุนในอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น

ในปี 2023 จะได้เห็นการนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาใช้อย่างรวดเร็ว เช่น ระบบการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ 

ทางเลือกบรรจุภัณฑ์

ผู้บริโภค 60-70% ยอมจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับแบรนด์ที่ใช้ทางเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน จึงทำให้บริษัทอาหารและเครื่องดื่มปรับกลยุทธ์ด้วยการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น

ปี 2023 จะยังคงเห็นบริษัทต่างๆ ทั่วทั้งภาคส่วนเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์ทางเลือกที่ใช้วัสดุย่อยสลายได้ เช่น กระดาษ และกระดาษแข็ง บรรจุภัณฑ์แบบปิดถาดจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากช่วยลดการใช้พลาสติกและพลังงานได้อย่างมาก ขณะเดียวกันก็รักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่สายการผลิตจนถึงมือผู้บริโภค มีการใช้พลาสติกวัสดุเดียวทั่วทั้งอุตสาหกรรม สามารถรีไซเคิลได้ง่ายกว่าอุตสาหกรรมพลาสติก

นวัตกรรมโปรตีนจากเซลล์

นอกเหนือจากโปรตีนจากพืชและผลิตภัณฑ์จากนม โปรตีนจากเซลล์ซึ่งยังไม่เป็นกระแสหลัก จะกลายเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกชั้นนำในปี 2023 เนื่องจากวิธีการผลิตช่วยลดความจำเป็นในการเลี้ยงและ สัตว์เลี้ยงในฟาร์มเพื่อเป็นอาหาร โปรตีนจากเซลล์มีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีการผลิตอาหาร

ในปัจจุบันมากกว่าหนึ่งในสามของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์นั้นเป็นผลมาจากวิธีที่ผลิต แปรรูป และบรรจุหีบห่ออาหาร

ข้อมูลพบว่าเนื้อสัตว์จากเซลล์อาจทำให้โลกร้อนน้อยลงถึง 92% มลพิษทางอากาศน้อยลง 93% และใช้ที่ดินน้อยลงถึง 95% และน้ำน้อยลง 78% เมื่อเทียบกับการผลิตเนื้อวัวทั่วไป 

ความสำคัญของ ESG

ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดลำดับความสำคัญของความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนในปี 2023 องค์กรจะต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคและรักษาความสามารถในการแข่งขัน

การลงทุนในทางเลือกเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและธุรกิจจะเป็นกุญแจสำคัญในปี 2023 เป็นส่วนสำคัญของการเติบโตอย่างมีกำไร ผู้ผลิตที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อลดขยะจากอาหารและบรรจุภัณฑ์ การใช้น้ำและไฟฟ้าจะยังคงเป็นการเติบโตและเปลี่ยนอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน

 

ข้อมูล : foodbev