net-zero

ยูเอ็นเตือนตะวันตก ทุ่มงบกลาโหม เสี่ยงซ้ำเติมวิกฤตภูมิอากาศ

อดีตผู้บริหาร UNDP เตือนชาติตะวันตก เน้นงบกลาโหมแต่ลดงบช่วยเหลือต่างประเทศ อาจทำให้เปราะบางต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศและภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่

การใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศจะไร้ความหมาย หากรัฐบาลชาติตะวันตกไม่เร่งแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศในประเทศยากจน อาคิม ชไตน์เนอร์ ผู้บริหารโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ที่เพิ่งพ้นวาระ ออกคำเตือน

ยิ่งจำกัดความสามารถในการดำเนินการของตนเองด้วยการเพ่งเล็งเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศ ก็ยิ่งเปราะบางมากขึ้น

ชไตน์เนอร์กล่าว หลังเสร็จสิ้นวาระที่สองในตำแหน่งผู้บริหาร UNDP ซึ่งมีภารกิจด้านความช่วยเหลือต่างประเทศและการยกระดับประชากรให้พ้นความยากจน ความเปราะบางอาจแปรเปลี่ยนเป็นวิกฤตได้อย่างรวดเร็ว

หลายประเทศรวมถึงสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และบางประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป กำลังเพิ่มงบประมาณกลาโหม ขณะที่ลดการใช้จ่ายด้านความช่วยเหลือต่างประเทศลงอย่างมาก ชไตน์เนอร์ระบุว่านี่คือการมองสั้นเกินไป

ยิ่งลดงบช่วยเหลือและความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนา ก็ยิ่งสูญเสียความสามารถในการดำเนินการ 

เขากล่าวว่า นี่คือการสูญเสียการควบคุม เพราะคุณไม่สามารถร่วมมือกับประเทศที่คุณพึ่งพาในการแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อีกต่อไป เช่น ปัญหาสภาพภูมิอากาศ นั่นหมายถึงการจำกัดความสามารถของตนเองในการสร้างเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นในโลกที่ทุกอย่างเชื่อมโยงกัน

เขาเตือนว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศอาจลุกลามจนควบคุมไม่ได้ หากประเทศต่าง ๆ ไม่ตระหนักถึงพันธกรณีระหว่างประเทศ

ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดอาจไม่ใช่ภัยคุกคามเชิงดินแดนจากกองทัพประเทศเพื่อนบ้าน แม้ว่าจะยังคงเป็นความเสี่ยงอยู่เสมอ แต่คือการก่อการร้ายทางไซเบอร์ การแพร่ระบาดครั้งต่อไปที่เราไม่พร้อมรับมือ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบโดมิโนของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไร้การควบคุม

รัฐบาลควรวางแผนระยะกลางและระยะยาว โดยพิจารณาการใช้จ่ายด้านการเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศในประเทศยากจน ตลอดจนการพัฒนาและความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาในกรอบดังกล่าว และอาจจัดให้อยู่ในงบกลาโหมหรือแนบโยงกับงบด้านความมั่นคง

มุมมองความมั่นคงเช่นนี้จะทำให้การมีแผนการด้านการป้องกันและการยับยั้งภัยเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันต้องมีแผนด้านการพัฒนาและการเสริมสร้างความยืดหยุ่น ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วต้องมีองค์ประกอบระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง และทั้งสองด้านล้วนเป็นส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ

ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระดับชาติจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กำลังกดดันให้รัฐบาลปรับแนวทางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศใหม่ เพราะสามารถก่อให้เกิดปัญหาที่ลุกลามกลายเป็นวิกฤตความมั่นคงได้อย่างรวดเร็ว เช่น การอพยพย้ายถิ่นและการขึ้นราคาสินค้าอาหาร

เรียกร้องให้นาโตจัดสรรงบกลาโหมร้อยละ 5 ของจีดีพี

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้พันธมิตรนาโตจัดสรรงบกลาโหมร้อยละ 5 ของจีดีพี โดยร้อยละ 3.5 สำหรับอาวุธและกองทัพ และอีกร้อยละ 1.5 ครอบคลุมด้านกว้างขึ้น เช่น ความมั่นคงทางไซเบอร์และโครงสร้างพื้นฐาน สหราชอาณาจักรให้คำมั่นว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวภายในปี 2035 หลังจากที่เพิ่มงบกลาโหมเมื่อต้นปีนี้เป็นร้อยละ 2.5 ของจีดีพี โดยใช้งบส่วนหนึ่งมาจากการปรับลดงบช่วยเหลือต่างประเทศจากร้อยละ 0.5 เหลือร้อยละ 0.3 ของจีดีพี

ประเทศอื่น ๆ กำลังดำเนินการในทิศทางเดียวกัน แต่บางประเทศได้เสนอแนวทางที่อาจกำหนดนิยามด้านความมั่นคงแห่งชาติในกรอบที่กว้างขึ้น เพื่อครอบคลุมการใช้จ่าย “Soft Power” เช่น ประเด็นสภาพภูมิอากาศหรือความมั่นคงด้านอาหาร ตัวอย่างเช่น เยอรมนีกำลังขยายโครงสร้างพื้นฐานควบคู่ไปกับกลาโหม โดยรวมโครงการด้านสภาพภูมิอากาศไว้ด้วย สเปนเดินหน้าต่อไปอีกขั้น โดยกันงบประมาณ 1.75 พันล้านยูโร (1.5 พันล้านปอนด์) จากงบกลาโหมไปใช้กับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ

ในมุมมองของชไตน์เนอร์ องค์การสหประชาชาติกำลังเผชิญแรงกดดันที่รุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยโลกอยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ สหรัฐฯ ยุติการดำเนินงานของหน่วยงาน USAID อย่างกะทันหัน และถอนเงินจากสหประชาชาติและองค์กรพหุภาคีอื่น ๆ พร้อมทั้งลดทอนบทบาทหน่วยงานภายในประเทศที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ขณะที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้วรายใหญ่อื่น ๆ เช่น สหภาพยุโรป แคนาดา ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร ก็อยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นเดียวกัน

เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วนลึกซึ้ง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่ขณะนี้ กำลังเสี่ยงทำให้ความร่วมมือและพหุภาคีเป็นอัมพาต การพัฒนา ในรูปแบบความช่วยเหลือต่างประเทศ คือการป้องกัน การลงทุนเพื่อแก้ปัญหาก่อนที่มันจะลุกลามกลายเป็นความแตกแยกทางสังคมอย่างรุนแรง

เขาเสริมว่า วาระการพัฒนาระหว่างประเทศและสถาบันความร่วมมือระหว่างประเทศของเรา กำลังเผชิญความกดดันอย่างไม่เคยมีมาก่อน ไม่เพียงแต่ในแง่ของการถูกตัดงบ แต่ยังรวมถึงความสามารถในการนำเสนอเส้นทางข้างหน้าให้แก่โลกท่ามกลางห้วงเวลาแห่งความปั่นป่วนนี้

ในโลกใหม่ ผู้ที่ยากจนที่สุดกลับเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เราได้เห็นการถดถอยของความก้าวหน้าด้านการพัฒนาหลังการแพร่ระบาด โดยมีหลายสิบประเทศเป็นหนี้มากจนถึงขั้นตัดงบพัฒนาของตัวเอง พวกเขาต้องนำงบด้านสาธารณสุขและการศึกษาไปชำระดอกเบี้ยหนี้สาธารณะ และย่อมไม่สามารถระดมทุนเพื่อการลงทุนในรากฐานของการพัฒนาอนาคตได้

การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้ก็ต่อเมื่อประเทศต่าง ๆ ปรับแนวคิดใหม่เกี่ยวกับผลประโยชน์แห่งชาติที่แท้จริง ซึ่งต้องอาศัยมุมมองระดับโลก เขาสรุปว่า ดีเอ็นเอพื้นฐานของความมั่นคงแห่งชาติในยุคสมัยนี้ ต้องมีองค์ประกอบที่ลดความเสี่ยงจากภัยคุกคาม ซึ่งโดยนิยามแล้วสามารถบรรเทาได้ด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศเท่านั้น

สำหรับตำแหน่งผู้สืบทอดต่อจากชไตน์เนอร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ UNDP ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงเดือนมิถุนายนนี้ หลังเคยเป็นผู้อำนวยการโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง โดยปัจจุบัน เหาเหลียง ซวี รองเลขาธิการสหประชาชาติ ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่รักษาการผู้บริหารจนกว่าจะมีการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งถาวร