LWS เปิดเทรนด์ออกแบบบ้าน 68 ชู Longevity เชื่อมโยงชุมชนหัวใจหลัก

22 ธ.ค. 2568 | 09:45 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2568 | 09:46 น.

LWS เผยเทรนด์การออกแบบที่อยู่อาศัยปี 2026 ชี้บทบาทของบ้านจากพื้นที่พักอาศัย สู่ฐานสำคัญของสุขภาพกายใจ พลังงาน และความสัมพันธ์ในชุมชน ท่ามกลางสังคมสูงวัยและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

KEY

POINTS

  • เทรนด์การออกแบบบ้านมุ่งเน้นแนวคิด Longevity หรือการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ โดยบ้านต้องเป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ
  • ที่อยู่อาศัยต้องสามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ และมีการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน
  • พื้นที่ใช้สอยภายในต้องมีความยืดหยุ่น (Flexible Design) และเป็น Universal Design เพื่อรองรับการใช้งานของคนทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์
  • ให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์และเชื่อมโยงผู้คนในชุมชนเข้าด้วยกัน ลดความโดดเดี่ยว

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างสังคมและพฤติกรรมการใช้ชีวิต แนวคิดเรื่อง Longevity หรือการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ กลายเป็นโจทย์สำคัญที่ส่งผลต่อการออกแบบที่อยู่อาศัยโดยตรง

โดย LWS ระบุว่า บ้านในอนาคตไม่ใช่เพียงพื้นที่พักผ่อน แต่เป็น “โครงสร้างพื้นฐานของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี” ที่ต้องรองรับทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และความสัมพันธ์ของผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงวัย

LWS เปิดเทรนด์ออกแบบบ้าน 68 ชู Longevity เชื่อมโยงชุมชนหัวใจหลัก

บ้านต้องผลิตพลังงานและจัดการทรัพยากรได้เอง

หนึ่งในทิศทางสำคัญของการออกแบบอาคารปี 2026 คือ ความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน โดยการติดตั้งระบบพลังงานทดแทน เช่น แผงโซลาร์เซลล์ หรือกระจกโซลาร์เซลล์ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานจริง ควบคู่กับการจัดการของเสียจากการก่อสร้างอย่างเป็นระบบ

ตั้งแต่การแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง การรีไซเคิล ไปจนถึงการจัดการขยะอันตรายอย่างถูกต้อง แนวคิดดังกล่าวสะท้อนว่า ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงภาพลักษณ์ แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของโครงการที่อยู่อาศัย

พื้นที่ยืดหยุ่น อยู่ได้ทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์

LWS ชี้ว่า พื้นที่ใช้สอยภายในต้องตอบโจทย์ชีวิตที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งครอบครัวหลายเจเนอเรชัน คู่รักไม่มีบุตร กลุ่มเพื่อน หรือผู้เลี้ยงสัตว์ การออกแบบจึงต้อง ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนง่าย และเป็น Universal Design รองรับผู้ที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย

ขณะเดียวกัน บ้านยังต้องช่วยจัดการความเครียดจากโลกภายนอก ผ่านการออกแบบแสง เสียง และกลิ่น รวมถึงการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน หรือพื้นผิวที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เพื่อดึง “ธรรมชาติ” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัย

จากพื้นที่ส่วนตัว สู่ชุมชนที่ไม่ปล่อยให้ใครโดดเดี่ยว

อีกหนึ่งแนวโน้มสำคัญคือการออกแบบ พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ชุมชน ให้เอื้อต่อการพบปะและทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัดขนาดเล็ก เวิร์กช็อป หรือกิจกรรมตามเทศกาล
แนวคิด Grounding ถูกนำมาใช้มากขึ้น ผ่านสวนหรือพื้นที่ที่ให้ร่างกายสัมผัสธรรมชาติโดยตรง รวมถึงแนวคิด Agrihoodsที่ผสานการอยู่อาศัยเข้ากับการทำเกษตรในชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและความสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่อาศัย

LWS เปิดเทรนด์ออกแบบบ้าน 68 ชู Longevity เชื่อมโยงชุมชนหัวใจหลัก

โทนสี Cloud Dancer นำเทรนด์ปี 2569

ด้านงานออกแบบ LWS ระบุว่า สีประจำปี 2569 จาก Pantone อย่าง Cloud Dancer จะมีบทบาทสำคัญในงานที่อยู่อาศัย ด้วยโทนสีขาวนวลที่สื่อถึงความสงบ เบาบาง และ Well-being ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นสีหลัก แล้วเติมมิติด้วยวัสดุและองค์ประกอบธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการพักผ่อนทั้งกายและใจ

ทั้งนี้ LWS สรุปว่า เทรนด์การออกแบบที่อยู่อาศัยปี 2026 จะถูกขับเคลื่อนด้วยคุณภาพชีวิตเป็นศูนย์กลาง ตั้งแต่ระดับอาคาร พื้นที่ภายใน ไปจนถึงชุมชนรอบข้าง
การออกแบบที่ดีจึงไม่ใช่แค่สวยงามหรือใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ต้องช่วยให้ผู้คน อยู่ได้ดี ไม่โดดเดี่ยว และมีสุขภาวะที่ยั่งยืน ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว