KEY
POINTS
ตลาดซื้อขายบ้านและคอนโดฯ มือสองยังคงเป็นพื้นที่ที่ผู้บริโภคต้องเผชิญหลากหลายความเสี่ยง ทั้งการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง การเตรียมเอกสารที่ยุ่งยาก รวมถึงความไม่แน่นอนของผู้ซื้อ-ผู้ขายในแต่ละดีล ทำให้บทบาทของเอเจนต์อสังหาฯ กลายเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญของตลาดที่อยู่อาศัยปัจจุบัน โดยดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เผยอินไซต์จากพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งสรุป 6 เช็กลิสต์สำหรับใช้คัดกรองเอเจนต์คุณภาพ เพื่อให้การซื้อ-ขายเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้น
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้มองว่าผู้ขายและผู้เช่ามือใหม่จำนวนมากยังประสบความท้าทาย ตั้งแต่การตั้งราคาที่ไม่สอดคล้องกับสภาพตลาด การจัดคิวพาชมห้องที่กินเวลานาน การขาดทักษะเจรจาต่อรอง ไปจนถึงความซับซ้อนด้านเอกสารสัญญา โดยข้อมูลสำรวจล่าสุด ระบุว่า 67% ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับ “ชื่อเสียงเอเจนต์” เป็นปัจจัยแรกในการตัดสินใจใช้บริการ ขณะที่ 59% ให้น้ำหนักกับประสบการณ์ และ 43% ให้ความสำคัญกับความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของเอเจนต์ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ตอบยังคาดหวังว่าเอเจนต์ต้องเชี่ยวชาญกฎหมาย 27% เข้าใจการตลาด 20% และมีความรู้ด้านการเงิน 18%
เพื่อลดความเสี่ยงในการทำธุรกรรม ดีดีพร็อพเพอร์ตี้จึงเปิดเผย 6 เช็กลิสต์ที่ผู้บริโภคควรพิจารณาก่อนเลือกใช้บริการเอเจนต์ ดังนี้
การมีใบรับรองการอบรมเสริมทักษะต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและรับประกันว่าผ่านมาตรฐานวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง
เข่น ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ที่มีระบบ “Agent Verification” ซึ่งแสดงข้อมูลติดต่อและประวัติเอเจนต์ชัดเจน ผู้บริโภคจะเห็นป้าย “Verified” บนหน้าโปรไฟล์ ช่วยคัดกรองเอเจนต์ที่ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ทำให้การซื้อ–ขาย–เช่าเป็นไปอย่างโปร่งใส
เอเจนต์ควรรู้ราคาตลาดเฉลี่ยของทำเลที่รับผิดชอบ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกของพื้นที่ เช่น ความต้องการที่อยู่อาศัย จุดเด่นของโครงการใกล้เคียง และปัจจัยด้านการเดินทาง เพื่อนำเสนอคำแนะนำที่เที่ยงตรงและเหมาะกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
เอเจนต์ต้องมีความน่าเชื่อถือ อธิบายข้อมูลตรงไปตรงมา และมีทักษะในการเจรจาต่อรองที่ช่วยรักษาผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายได้อย่างสมดุล พร้อมรับมือกับผู้สนใจซื้อและสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้ดี
เอเจนต์มืออาชีพต้องรู้จักวิเคราะห์จุดเด่น-จุดด้อยของทรัพย์ การแข่งขันในตลาด และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำมาวางแผนการตลาดทั้งออฟไลน์–ออนไลน์ รวมถึงคำแนะนำด้านโปรโมชั่นที่ช่วยเร่งการปิดดีล
ตั้งแต่สัญญาจะซื้อจะขาย การตรวจสอบสถานะทรัพย์ การเตรียมเอกสารจำนอง การยื่นกู้ ไปจนถึงขั้นตอนโอนกรรมสิทธิ์ เอเจนต์ที่เชี่ยวชาญจะช่วยลดความผิดพลาด และประหยัดเวลาให้ผู้บริโภคอย่างมาก
ทั้งนี้ ค่าบริการเอเจนต์โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 3% ของราคาซื้อขาย และจะจ่ายหลังทำธุรกรรมเสร็จสิ้น ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ช่วยให้ผู้ซื้อ-ผู้ขายลดภาระงานที่ซับซ้อนและลดความเสี่ยงในกระบวนการได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยดีดีพร็อพเพอร์ตี้ย้ำว่าผู้บริโภคควรตรวจสอบข้อมูลเอเจนต์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ หากยังไม่แน่ใจสามารถใช้ระบบ “Agent Verification” เพื่อช่วยกลั่นกรองเอเจนต์มืออาชีพและลดความเสี่ยงในทุกดีลอสังหาริมทรัพย์