KEY
POINTS
การลงทุนพัฒนาอพาร์ตเมนต์หรือหอพักในปัจจุบันอาจจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจไปแล้ว จริงอยู่ที่อาจจะมีบางทำเลที่มีหอพัก และอพาร์ตเมนต์เปิดให้บริการใหม่ รวมไปถึงมีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารประเภทนี้ใหม่ในทุกๆ ปี แต่ถ้าย้อนไปช่วง 20-30 ปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็น1 ในธุรกิจเสือนอนกิน คนมีเงินหรือมีแนวคิดทางธุรกิจจะลงทุนเพื่อก่อสร้างหอพัก และอพาร์ตเมนต์เป็นส่วนใหญ่
โดยเฉพาะในทำเลที่เป็นชุมชน หรือในทำเลที่ไม่ไกลจากสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษาระดับไหนก็ตามแต่ถ้าเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาอาจจะมีจำนวนมากกว่าชัดเจน หรือทำเลที่ไม่ไกลจากแหล่งงานเกินไป
จำนวนห้องอาจจะไม่มากนักต่อ 1 อาคารอาจจะเพียง 30-50 ห้อง สูงสุดไม่เกิน 70 ห้อง มีแค่บางอาคารเท่านั้นที่มากกว่า 100 ห้อง แต่ว่าอาคารหอพักและอพาร์ตเมนต์เหล่านี้อาจจะมีเจ้าของเป็นคนเดียว ครอบครัวเดียว หรือกลุ่มเดียวกัน และบางทำเลมีหลายเจ้าของ นักลงทุนเข้ามาลงทุนในทำเลเดียวกัน
บางทำเลมีมากถึงหลักหมื่นห้องเช่น รอบๆ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เอแบค มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือธุรกิจบัณฑิต เป็นต้น รวมไปถึงในทำเลที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ เช่น พื้นที่รอบ นิคมอุตสาหกรรม ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดอื่น ทั่วประเทศไทย หรือในทำเลที่มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เป็นต้น เพราะมีคนวัยทำงานจำนวนมากที่เข้ามาทำงานและต้องการที่พักอาศัย
ค่าห้องพักอาจจะไม่สูงมากโดยอาจจะเริ่มที่ 1,500 บาทถึงไม่เกิน 5,000 บาทต่อเดือน ซึ่งช่วง 10 กว่าปีก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หรือปลดหนี้สินเชื่อที่เอามาลงทุนได้ในเวลาที่ไม่นานเกินไป และสามารถทำให้เจ้าของหอพัก อพาร์ตเมนต์ ต่างๆ สามารถนำเงินมาต่อเงินได้เรื่อยๆ ปัจจุบันความนิยมของหอพัก และอพาร์ตเมนต์
อาจจะลดน้อยลงไป หลายๆ อาคารที่เคยคึกคักมีสภาพทรุดโทรมเหมือนเจ้าของไม่สนใจในการดูแล หลายๆ แห่งขายแล้วโดนทุบไปเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม แต่ก็มีไม่น้อยที่ยังอยู่และมีคนเข้าพักเต็มหรือเกือบเต็มโดยเฉพาะในทำเลที่ไม่ไกลจากแหล่งงานต่างๆ ไม่ไกลจากสถาบันการศึกษา และมีค่าเช่ารายเดือนที่ไม่สูงเกินไป
ความนิยมของหอพัก แฟลต อพาร์ตเมนต์ในกรุงเทพมหานครอาจจะลดลง และแทนที่ด้วยโครงการคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นในทำเลเดียวกัน หอพัก แฟลต และอพาร์ตเมนต์ในกรุงเทพมหานครอาจจะอาจจะมีการเพิ่มขึ้นของอาคารใหม่ๆ ที่ลดลงแต่ถ้าเป็นในส่วนของปริมณฑลรอบๆ กรุงเทพมหานครแล้วยังมีอาคารใหม่ๆ เกิดขึ้นมากกว่า ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทยยังคงมีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารที่เป็นแฟลต อพาร์ตเมนต์ และหอพักเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะจังหวัดที่ภาคอุตสาหกรรมมีการขยายตัวมากๆ เช่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา เป็นต้น รวมไปถึงจังหวัดที่มีสถาบันการศึกษาหลายแห่ง หรือจังหวัดขนาดใหญ่ของแต่ละภาคในประเทศไทย เช่น ภูเก็ต นครราชสีมา เชียงใหม่ เป็นต้น
ในทางกลับกันก็มีหอพัก แฟลต และอพาร์ตเมนต์จำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เลิกกิจการแล้วขายที่ดินพร้อมอาคารไปแล้ว เพราะได้เงินจำนวนมากจากการขายที่ดินพร้อมอาคาร เนื่องจากราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในทำเลที่ไม่ไลจากสถานีรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ
ทั้งในเมืองชั้นใน และพื้นที่กรุงเทพมหานครรอบนอก อีกทั้งกิจการหอพัก แฟลต และอพาร์ตเมนต์ที่ดำเนินกิจการมาก็หลายปีจนอาจจะคืนทุนและแทบไม่มีต้นทุนใหม่ๆ อะไรแล้ว หรือไม่มีคนสืบทอดในการดูแลกิจการเพราะลูกลหานไม่อยากรับหน้าที่ในการดูแลต่อเนื่อง แต่ต้องการขายเพื่อเอาเงินมากกว่า
หลายทำเลมีโครงการคอนโดมิเนียมมาเป็นคู่แข่งโดยตรง เช่น รอบมหาวิทยาลัย รอบๆ นิคมอุตสาหกรรม และในจังหวัดใหญ่บางจังหวัด บางทำเลรอมหาวิทยาลัยมีคอนโดมิเนียมเปิดขายรวมแล้วไม่ตํ่ากว่า 20,000 ยูนิตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้เช่าให้ความสนใจกับคอนโดมิเนียมมากไม่ต่างจากหอพัก หรืออพาร์ตเมนต์ แม้ว่าค่าเช่าอาจจะสูงกว่าก็ตามแต่สิ่งอำนวยความสะดวกหรือการดูแลรักษาความปลอดภัยดีกว่าจึงดีรับความสนใจจากลุ่มลูกค้าที่แทบจะเป็นกลุ่มเดียวกับผู้ที่เช่าหอพักและอพาร์ตเมนต์ส่งผลให้หลายๆ ทำเลทั้งอพาร์ตเมนต์และหอพักเริ่มหายไป การขออนุญาตก่อสร้างใหม่ก็ลดลง แต่หลายทำเลทั่วประเทศไทยก็ยังมีอพาร์ตเมนต์ และหอพักใหม่ๆ เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะเป็นรูปแบบของที่พักระยะสั้น
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,147 วันที่ 9 -12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568