พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เร่งขยายพอร์ตธุรกิจตามแผนสร้างการเติบโตระยะยาว เปิดเกมรุกครั้งใหญ่ในตลาดก่อสร้างและรับสร้างบ้าน ผ่านบริษัทในเครือ อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด (IHC) ภายใต้แนวคิด “สร้างการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรม” (Building Sustainable Living through Innovation) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและต่อยอดจากฐานธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ สู่การเป็นผู้นำด้านบริการครบวงจรของอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัว IHC ถือเป็นก้าวยุทธศาสตร์สำคัญในการต่อยอดระบบนิเวศ (Ecosystem) ของพฤกษาให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นนํ้าถึงปลายนํ้า ทั้งด้านวัสดุก่อสร้าง การพัฒนาโครงการ ไปจนถึงการให้บริการที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างเส้นทางรายได้ใหม่และขยายโอกาสทางธุรกิจในตลาดที่มีศักยภาพสูง
ธุรกิจหลักของ IHC ถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย IHC (ISC) ซึ่งทำหน้าที่เป็น One-Stop Service Solution สำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯ รายกลางและรายเล็ก, Primary (Plantnery by Pruksa) ธุรกิจรับสร้างบ้าน และ I Plearn (ไอ เพลิน) ธุรกิจที่อยู่อาศัยให้เช่า โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของเครือพฤกษาในระยะยาว
นายปิยะกล่าวว่า ตลาดที่ IHC ตั้งเป้าจับกลุ่มนั้นมีมูลค่ารวมราว 1.3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด โดยมุ่งเจาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กที่ไม่ต้องการลงทุนสร้างทีมก่อสร้างเอง
บริการของ IHC ครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study), การออกแบบ, การวางแผนต้นทุน, การก่อสร้าง ไปจนถึงบริการหลังการขาย โดยอาศัยเครือข่ายซัพพลายเออร์ระดับประเทศและทีมงานมืออาชีพกว่า 60 ทีม รองรับงานก่อสร้างได้ถึง 700 ยูนิตต่อเดือน
“เราไม่ได้แข่งขันกับผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ แต่ต้องการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจให้กับรายกลางและรายเล็กที่ไม่มีทรัพยากรด้านทีมงานและนวัตกรรมการก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นช่องว่างในตลาดที่มีดีมานด์จริง” นายปิยะกล่าว
พร้อมเสริมว่าอัตรากำไรของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 5% และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามการเติบโตของโครงการแนวราบขนาดกลางในเมืองและปริมณฑล
ขณะที่อีกเสาหลักของธุรกิจ คือ Primary (Plantnery by Pruksa) ซึ่งเป็นธุรกิจรับสร้างบ้านที่พฤกษามองว่าเป็น “โอกาสทอง” ในช่วงภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยข้อมูลจากสมาคมไทยรับสร้างบ้านและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่าตลาดรับสร้างบ้านในปี 2568 มีมูลค่าสูงถึง 130,000 ล้านบาท แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ครองส่วนแบ่งเพียง 10% หรือประมาณ 15,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ตลาดนี้ยังเปิดกว้างสำหรับผู้เล่นรายใหม่ที่มีมาตรฐานการก่อสร้างและเทคโนโลยีที่เหนือกว่า
Primary ใช้จุดแข็งจากประสบการณ์ก่อสร้างของพฤกษามากกว่า 30 ปี และเทคโนโลยี Precast System ควบคุมคุณภาพและระยะเวลาก่อสร้าง โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือผู้มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะเจ้าของกิจการและผู้ประกอบการ SME ที่ไม่ถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก เน้นสร้างบ้านราคา 10-30 ล้านบาท ด้วยต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ต่ำกว่าคู่แข่งประมาณ 10%
“บริษัทมีทีมช่างมืออาชีพและแบบบ้านให้เลือกมากกว่า 100 แบบ ทั้งมาตรฐานและแบบปรับแต่งได้ พร้อมรับประกันโครงสร้างนาน 20 ปี และสร้างเสร็จภายใน 6 เดือน” นายปิยะกล่าว
ทั้งนี้ Primary ตั้งเป้ารายได้ในปี 2568 แบบไว้ที่ 1,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายสูงสุดที่ 5,000 ล้านบาทในระยะกลาง โดยอัตรากำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 10-15% นอกจากสองธุรกิจหลักแล้ว พฤกษายังต่อยอดสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ผ่าน I Plearn (ไอ เพลิน) ธุรกิจที่อยู่อาศัยให้เช่า ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์เติบโตในกลุ่มวัยทำงานและนักศึกษา
บริษัทมีแผนลงทุนสินทรัพย์รวมราว 6,000 ล้านบาท พัฒนาอพาร์ตเมนต์ประมาณ 300 อาคาร ในพื้นที่รังสิต ลำลูกกา และบ่อวิน โดยตั้งเป้าอัตราเข้าพัก (Occupancy Rate) สูงกว่า 90% เพื่อปูทางเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ภายใน 4 ปี และตั้งเป้ารายได้รวมราว 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ อัตราค่าเช่ามีความยืดหยุ่นตามทำเลและกลุ่มเป้าหมาย โดยในเซ็กเมนต์ล่าง ซึ่งเจาะกลุ่มแรงงานจะมีค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อเดือน ส่วนกลุ่มนักศึกษา ที่ต้องการห้องพักใกล้มหาวิทยาลัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ จะอยู่ในช่วง 4,000-5,000 บาทต่อเดือน
ขณะที่โครงการใน ทำเลใจกลางเมือง ซึ่งเน้นดีไซน์ทันสมัยและระบบความปลอดภัยครบถ้วน จะมีค่าเช่าอยู่ที่ราว 8,000-10,000 บาทต่อเดือน เพื่อเจาะตลาดที่หลากหลายเพื่อรองรับดีมานด์ที่อยู่อาศัยเช่าทุกระดับรายได้
นายปิยะยํ้าว่า การขยายธุรกิจทั้งสามแขนงของ IHC ไม่ได้เป็นเพียงการต่อยอดทางรายได้เท่านั้น แต่ยังเป็น “จิ๊กซอว์สำคัญ” ที่จะทำให้เครือพฤกษากลายเป็นผู้นำในระบบนิเวศอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนา การก่อสร้าง ไปจนถึงการบริหารสินทรัพย์ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,146 วันที่ 6 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568