การสำรวจการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในเดือนสิงหาคม2568ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบว่าเปิดตัวโครงการใหม่ 19 โครงการ มีจำนวนหน่วยรวมทั้งหมด 4,096 หน่วย และมีมูลค่าโครงการรวม 22,544 ล้านบาท
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์สเปิดเผยว่า จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนสิงหาคมมีทั้งหมด 4,096 หน่วย
การเปิดตัวโครงการใหม่พบว่า 71% ยังคงเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่และบริษัทในเครือที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด โดยเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดที่ระดับราคาค่อนข้างถูกถึงปานกลางเป็นสำคัญ ส่วนแนวราบเน้นพัฒนาที่ระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูงถึงระดับราคาแพง
จำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คือ อาคารชุด ซึ่งมีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ 2,706 หน่วย (66.1%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 689 หน่วย (16.8%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 487 หน่วย (11.9%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ในเดือนนี้ตั้งอยู่เขตติดต่อเมืองหรือส่วนต่อขยายของเมืองเป็นสำคัญ
ในเดือนสิงหาคมอาคารชุดระดับราคาค่อนข้างถูกถึงปานกลางกลับมามีบทบาทสูงสุด สวนทางกับแนวราบที่ชะลอตัวลงเกือบครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยต่อยูนิตลดลงจากเดือนที่ผ่านมา ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงเฉลี่ยที่ประมาณ 5.504 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเดือนนี้ที่มุ่งเจาะกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่และกลุ่มมนุษย์เงินเดือนเป็นหลัก
โดยต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งงานหรือโครงข่ายรถไฟฟ้า เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มนักลงทุนรายย่อยที่ยังคงให้ความสนใจในอาคารชุด
เนื่องจากตอบรับกับกระแส “เช่าแทนซื้อ” ที่ยังคงมีความต่อเนื่องในตลาด และให้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่น่าสนใจในทำเลศักยภาพผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนดังกล่าวพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 5 บริษัท คือ บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) บมจ. อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.สัมมากร และบมจ. ศุภาลัย ตามลำดับนอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปและบริษัทในเครืออีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป
หากพิจารณาจำนวนอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมของปีนี้เปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา จะพบว่า ในปีนี้มีจำนวนโครงการเปิดใหม่ลดลงจากปีที่ผ่านมา 8 โครงการ แต่จำนวนหน่วยขายเพิ่มขึ้น 170 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 4.3% (ปีที่ผ่านมามีจำนวน 3,926 หน่วย) ส่วนมูลค่าลดลง 13,991 ล้านบาท หรือลดลง 62% (ปีที่ผ่านมามีมูลค่า 36,535 ล้านบาท)
เมื่อเปรียบเทียบจำนวนโครงการที่เปิดใหม่รวม 8 เดือนแรกของปี 2568 มีจำนวนโครงการเปิดใหม่รวม 159 โครงการ น้อยกว่า 8 เดือนแรกของปี 2567 จำนวน 89 โครงการ หรือลดลง -35.9% (8 เดือนแรกของปี 67 มีจำนวนรวม 248 โครงการ) จำนวนหน่วยขายรวมของ 8 เดือนแรกปี 2568 มีจำนวน 23,325 หน่วย ลดลง 16,551 หน่วย หรือลดลง -41.5% (8 เดือนแรกของปี 67 มีจำนวนรวม 39,876 หน่วย) ตามลำดับคาดว่าทั้งปี 2568 อาจมีจำนวนโครงการเปิดใหม่ลดลงเหลือเพียง 35,000 หน่วย รวมมูลค่าประมาณ 220,000 ล้านบาทเท่านั้น
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,136 วันที่ 2-4 ตุลาคม พ.ศ. 2568