ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยรายงาน “สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ไตรมาส 2/2568 และครึ่งแรกปี 2568” พบว่าตลาดต่างชาติเริ่มชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกและไทยที่ซบเซา ส่งผลให้ต่างชาติระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น แม้ในภาพรวมสัดส่วนการโอนเมื่อเทียบกับตลาดรวมยังคงเพิ่มขึ้น
ในไตรมาส 2/2568 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติทั่วประเทศจำนวน 3,248 หน่วย มูลค่า 12,318 ล้านบาท พื้นที่รวม 134,270 ตารางเมตร ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) โดยจำนวนหน่วยหดตัว -2.2% มูลค่าลดลง -16.9% และพื้นที่ลดลง -11.4% อย่างไรก็ตาม สัดส่วนเมื่อเทียบกับตลาดรวมยังสูงขึ้น โดยคิดเป็น 13.9% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด และ 23.1% ของมูลค่ารวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 11.7% และ 21.1% ตามลำดับ สะท้อนว่าตลาดต่างชาติยังมีบทบาทสำคัญต่อคอนโดไทย
สำหรับ ครึ่งแรกปี 2568 (ม.ค.–มิ.ย.) มีการโอนรวม 7,167 หน่วย มูลค่า 28,711 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน -1.3% และ -12.6% ตามลำดับ สัญชาติที่ซื้อสูงสุดยังคงเป็น ชาวจีน ซึ่งครองสัดส่วนทั้งในด้านจำนวนและมูลค่า แม้ตัวเลขจะลดลงจากปีก่อน โดยมีขนาดห้องเฉลี่ย 36.6 ตร.ม. มูลค่าเฉลี่ย 4 ล้านบาทต่อหน่วย ส่วน ผู้ซื้อจากสหราชอาณาจักร โดดเด่นด้วยการซื้อห้องชุดขนาดใหญ่และมูลค่าสูงที่สุด เฉลี่ย 57.5 ตร.ม. มูลค่า 5.15 ล้านบาทต่อหน่วย
ภาพรวมดังกล่าวสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของตลาดอสังหาฯ ไทยที่ต้องพึ่งพากำลังซื้อจากต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มจีนซึ่งยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก แม้จะเผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและความไม่แน่นอนทางการเมือง เศรษฐกิจและการเงินโลก ขณะที่ผู้ซื้อจากยุโรปอย่างอังกฤษแสดงพฤติกรรมที่แตกต่าง คือเลือกห้องขนาดใหญ่ขึ้นและมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งอาจสะท้อนความต้องการจริงเพื่ออยู่อาศัยระยะยาวมากกว่าการลงทุนระยะสั้น
ทั้งนี้ REIC ระบุว่าตลาดคอนโดไทยยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการชะลอตัวของต่างชาติส่งผลโดยตรงต่อกำลังซื้อในตลาดระดับกลางถึงบน ขณะที่สัดส่วนในตลาดรวมที่ยังเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณว่าต่างชาติยังคงมีบทบาทสำคัญในภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย