ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่มีทิศทางฟื้นตัว โดยวิจัยกรุงศรี ประเมินมูลค่าการลงทุนก่อสร้าง โดยรวมปี 2564 นั้น อาจมีแนวโน้มขยายตัวได้ถึง 4.5-5.0% จากปัจจัยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งเหนี่ยวนำการลงทุนก่อสร้างภาคเอกชนให้ขยายตัวตาม ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย อาคารเพื่อพาณิชย์ และสิ่งปลูกสร้างในนิคมอุตสาหกรรม ส่งผลต่อเนื่อง มายังตลาดวัสดุก่อสร้าง ให้มีทิศทางกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง ทั้งแง่ราคาและความต้องการที่มีมากขึ้น
ขณะเมื่อเจาะลึกเฉพาะกลุ่ม “ปูนก่อ-ฉาบอิฐมวลเบา” พบแบรนด์ปูนลูกดิ่ง และปูนจิงโจ้ เป็นอีกแบรนด์ใหญ่ ที่ความแข็งแกร่งทั้งในตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเป็นที่รู้จัก ให้การยอมรับในแวดวงช่างก่อสร้างมายาวนาน ขณะในอนาคต พบมีแผนวางจำหน่ายตามร้านอุปกรณ์ก่อสร้างทั่วประเทศ ด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 800,000 ตันต่อปี ภายใต้ความท้าทาย และวิสัยทัศน์ของ แม่ทัพหญิงแห่งวงการปูน นางสาวประภารัตน์ สิริวัฒกานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท ควิกโคท โปรดักส์ จำกัด กับแนวคิดขับเคลื่อนองค์กรด้วยใจ และคุณภาพ
จุดเริ่มต้นธุรกิจ
บริษัทเริ่มต้นจากการได้รับโจทย์ของลูกค้าที่ต้องการใช้อิฐมวลเบาแทนการใช้อิฐทั่วไปในการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ จึงเป็นที่มาของการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ปูนฉาบอิฐมวลเบารายแรกของไทย ภายใต้ชื่อ “ปูนลูกดิ่ง” หรือ “ดิ่งแดง” และปูนก่ออิฐมวลเบาสำเร็จรูปภายใต้ชื่อ “ปูนจิงโจ้” หรือ “โจ้ม่วง” ซึ่งเป็นที่ยอมรับและรู้จักในแวดวงช่างก่อสร้างมาจนถึงปัจจุบัน นับรวม 28 ปี
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนี้ คุณภาพของโปรดักต์เป็นสิ่งสำคัญ เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบเกรดคุณภาพ ผ่านกระบวนการผลิตมาตรฐานสากลที่ใช้ระบบหุ่นยนต์ 100% เพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่เคร่งครัด ก่อนนำส่งออกจากโรงงาน เช่นเดียวกับ คุณภาพในงานบริการ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ทั้งก่อนและหลังการขาย การขนส่งที่รวดเร็ว เที่ยงตรง และยืดหยุ่น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าให้มากที่สุด เป็นหลักสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เน้นความโปร่งใสและคำนึงถึงผลกระทบต่อทุกฝ่าย ทั้งกับพนักงาน คู่ค้าและลูกค้าทุกคน เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
ท้าทายผู้บริหารหญิง
อีกสิ่งหนึ่ง ที่นับเป็นความท้าทายนอกจากการนำพาธุรกิจให้เติบโตนั่นคือ การเป็นผู้นำหญิงหนึ่งเดียวในวงการปูน เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า วงการก่อสร้าง ธุรกิจของหนัก อิฐ หิน ดิน ทราย รวมไปถึงปูน ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจที่บริหารงานโดยผู้ชาย แต่จากการเติบโตของบริษัทสามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นถึงความสำเร็จของการบริหารธุรกิจในฐานะผู้บริหารที่เป็นผู้หญิงได้อย่างชัดเจน
“แม้เราจะเป็นผู้นำที่เป็นผู้หญิงในวงการปูน แต่มองว่าในความเป็นผู้หญิงมีความได้เปรียบ ซึ่งในการบริหารงานได้นำจุดเด่นในความเป็นผู้หญิงออกมาใช้นั่นคือ ความใส่ใจในทุกรายละเอียด ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นน้ำคือโรงงานผลิตไปจนถึงปลายน้ำ โดยจะมีการเดินตรวจโรงงานด้วยตนเอง ทั้งที่สำนักงานและโรงงาน”
ก้าวต่อไปของควิกโคท
สำหรับในอนาคตของควิกโคทนั้น แม่ทัพหญิงคนเดิม กล่าวว่า จะยังคงเดินหน้าธุรกิจด้วยการสร้างการเติบโตไปด้วยกันของพนักงาน คู่ค้าและลูกค้า โดยมุ่งมั่นและพัฒนาผลิตสินค้าปูนนวัตกรรมใหม่ พร้อมขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในตลาดซึ่งยังคงมีการแข่งขันสูงและมีผู้เล่นรายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ความได้เปรียบจะอยู่กับรายใหญ่ที่มีทุนสูงและมีอำนาจในตลาดมากกว่า แต่นับเป็นความท้าทายของผู้เล่นระดับกลางและระดับเล็กที่ต้องอยู่ให้รอดด้วยการพัฒนาองค์กรให้ทันกับกระแสเทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ มุ่งตอบสนองตามความต้องการของช่าง ผู้รับเหมายุคใหม่ รวมไปถึงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยุค 4.0 พร้อมเดินหน้าแผนกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 800,000 ตันต่อปี
หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,674 วันที่ 29 เมษายน - 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564