"กทม." ขอพันล้าน บูม "เกาะรัตนโกสินทร์"
"กทม." ขอ 1,000 ล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจ บูมเวิ้งคูเมืองเดิม คลองหลอด สามแพร่ง-วังหลัง เกาะรัตนโกสินทร์ทะลุเยาวราช ดึงคนเข้าพื้นที่ เสียบแทน มหาดไทย-กลาโหม ย้ายออก จับมือเอกชนชุบชีวิตชุมชน สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ต่อเนื่อง
เกาะรัตนโกสินทร์ ขุมทอง มรดกทางวัฒนธรรม ย่านชุมชนเก่า 2ฝั่งแม่นํ้าเจ้าพระยา ถูกหลอมรวมกลายเป็นแผ่นดินผืนเดียวกัน ด้วยความที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ ต้องการเก็บเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ไว้ให้ยาวนานที่สุด ส่งผลให้ หลายองค์กรหลายหน่วยงาน รัฐ-เอกชน รวมถึงชุมชนเจ้าของพื้นที่ ร่วมมือกันบูรณะซ่อมแซมเพื่อดึงคนจากทั่วทุกสารทิศ เข้ามาสัมผัส วัด-เวียง-วัง สร้างงานสร้างรายได้ ให้กับพื้นที่ แต่ไม่ลืม ความลํ้าสมัยเทคโนโลยี และการเชื่อมถึงของรถไฟฟ้า
เมื่อสถานการณ์โควิด สร้างผลกระทบ นักท่องเที่ยวต่างชาติหายประกอบกับหน่วย งานเก่าแก่อย่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม ย้ายออก ทำให้แนวโน้มการจับจ่ายหายไปสร้างความยากลำบากให้กับประชาชนสำหรับทางออก ท้องถิ่นอย่าง กทม.ต้องพัฒนาพื้นที่ บริเวณที่ ขาดหายไปให้กลับมามีชีวิตชีวาเมื่อมีรถไฟฟ้าเชื่อมเข้ามา จุดนี้ จึงเป็นโอกาสพลิกให้เป็นย่านท่องเที่ยว เมืองเก่าสำคัญ
นายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า หลังสถานการณ์โควิดคลีคลาย กทม.เตรียมความพร้อม พัฒนาพื้นที่บริเวณเวิ้งคูเมืองเดิม ซึ่งเป็นส่วนของที่ตั้ง กระทรวงมหาดไทยกระทรวง กระทรวงกลาโหมให้เกิดกิจกรรม ร่วมกับภาคประชาชน โดย สำนักการโยธากทม.ได้เสนอของบประมาณ วงเงิน กว่า1,000 ล้านบาท ซึ่งอาจมาจากรายได้ของ กทม.เอง หรืองบจัดสรรจากรัฐบาล นำมาปรับภูมิทัศน์ สร้างความร่มรื่น จูงใจให้เดินเท้าเที่ยวได้ตามตอกทะลุซอกซอย นอกจากนี้ยังพัฒนาจุดร้านค้าให้กับชุมชนซึ่งเป็นช่องทางสร้างรายได้เรียกนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ เยี่ยมชมวัด โบราณสถาน ข้ามเรือข้ามฝาก ต่างๆ ทดแทน
“ยอมรับว่า ชุมชนได้รับผลกระทบอย่างมาก แค่กระทรวงมหาดไทย แห่งเดียวย้านกระทบเศรษฐกิจในชุมชน ร้านอาหาร ย่านนั้น เงียบเหงาซึ่งขณะนี้ทยอยออกไป”
สำหรับพื้นที่ต้องเข้าไปพัฒนาได้แก่ ย่านสามแพร่ง-วังหลัง ย่านการค้าที่สำคัญในอดีต เพราะเป็นพื้นที่ชุมชนชั้นในของฝั่งธนบุรีบริเวณวังหลัง เช่น โรงพยาบาลศิริราช สถานีรถไฟธนบุรี วัดอมรินทราราม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) สนามหลวง ท่าช้าง พระบรมมหาราชวัง มหาวิทยาลัยศิลปากร
พื้นที่เวิ้งคลองคูเมืองเดิม หรือ คลองหลอด ตั้งแต่กระทรวงมหาดไทย ถนนดินสอ วัดราชนัดดารามวรวิหาร พระเจดีย์โลหะปราสาท หนึ่งเดียวในโลก นอกจากนี้ ยังทะลุเชื่อมไปยัง บางลำภู สำเพ็งพาหุรัด เยาวราช ซึ่งที่ผ่านมา สนย. ได้พัฒนาคลองโอ่งอ่าง สะพานเหล็ก สะพานพุทธเดิม เดินเท้าไปตาม ริมแม่นํ้า บริเวณตลาดน้อยทะลุตรอกซอกซอย สำเพ็ง ปากคลองตลาด ป้อมมหากาฬ ภูเขาทอง ป้อมสุเมรุ ซึ่งล้วนเป็นชุมชนเก่าที่กทม.ให้ชาวบ้านเป็นผู้เลือกกิจกรรม ซึ่งเปิดกว้างสามารถค้าขายได้เป็นเชิงพาณิชย์ขนาดย่อม สร้างจุดสนใจให้นักท่องเที่ยว
“ขณะนี้สำนักการวางผังพัฒนาเมือง กทม.ได้เข้าไปวางผัง ออกแบบคูเมืองผังสำเพ็ง-เยาวราช-ตลาดน้อยยกระดับ เป็นย่านการค้าย่อมๆสำนักการโยธา กทม. ได้ออกแบบปรับภูมิทัศน์ บริเวณ คูเมืองเดิม (คลองหลอด ) บริเวณวัดราชนัดดา ปากคลองตลาดสะพานพุทธเดิม และขยายพื้นที่ พัฒนาต่อโดยเจรจากับทางการไฟฟ้านครหลวงที่ร่วมกันนำสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด”
นายศักด์ชัยกล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่บางลำพู-ข้าวสาร ต้องการให้เป็นย่านสมัยใหม่ ซึ่งเอกชน เห็นด้วย และต้องการสนับสนุนงบประมาณ แต่เกิดสถานการณ์โควิด-19เสียก่อนแต่ทั้งนี้ภายใต้งบที่จำกัด แต่จะขยายพื้นที่ พัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่จะไม่ให้ถึงขั้นเหมือนสุขุมวิท
หน้า 1หนังสือฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,606 วันที่ 3 - 5 กันยายน พ.ศ. 2563
ข่าวที่เกี่ยวข้อง