ผ่ามุมคิด | อสังหาฯ แพง! แฟชั่นชั้นสูง ยิ่งนาน มูลค่ายิ่งเพิ่ม

... เจาะกลยุทธ์ "แสนสิริ ลักชัวรี่ คอลเลกชั่น" ยกระดับมาตรฐานที่อยู่อาศัยไทยสู่การครอบครองสินทรัพย์ของสะสมชั้นสูง ยิ่งนาน มูลค่ายิ่งเพิ่ม สอดรับดีมานด์ลูกค้ากลุ่ม HNWIs ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ผ่านรองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์โครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) "ปิติ จารุกำจร" ที่กล่าวว่า ... อสังหาฯ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย


⁍ เทรนด์ลงทุนของหายาก

'ปิติ' หยิบยกข้อมูลผลรายงาน "ความมั่งคั่ง" ทั่วโลก หรือ The Wealth Report โดยไนท์แฟรงค์ เมื่อปี 2561 ที่ระบุว่า ของสะสมในรูปแบบการลงทุนที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ครอบครองสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ ไวน์, วิสกี้หายาก, งานศิลปะ, นาฬิกาหรู, เหรียญเงินตรา, อัญมณี, รถยนต์, แสตมป์, เพชรสี และเฟอร์นิเจอร์คลาสสิก ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่สามารถสร้างมูลค่าสูงขึ้นอย่างน่าสนใจ เฉลี่ยต่อปีถึง 9% หรือมูลค่าเพิ่ม 300% ในช่วงแค่ 10 ปี เนื่องจากในอนาคตจะกลายเป็นของหายาก ราคาสูง ยิ่งใครมีครอบครองยิ่งเป็นที่ยอมรับของกลุ่มนั้น ๆ แต่เทรนด์การลงทุนที่น่าสนใจ คือ แนวโน้มการสะสมในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อย่าง ที่ดิน บ้าน หรือ คอนโดมิเนียมลักชัวรี-ซูเปอร์ลักชัวรี ในสัดส่วนต่อพอร์ตที่มากขึ้น

⇲ ปิติ จารุกำจร

⁍ บ้านไข่มุกราคาพุ่ง 1,000%

อสังหาฯ ราคาแพงในไทย เติบโตเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการลงทุนในกลุ่มลูกหลานตระกูลเก่าแก่ แล้วยังรวมถึงลูกค้ากลุ่ม HNWIs (ผู้มีทรัพย์สิน เงินสด หรือ เงินลงทุนมูลค่าสูง) ของประเทศไทยและต่างชาติด้วย เช่น ชาวฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน

โดย นายปิติ กล่าวเสริมว่า การครอบครองอสังหาฯ ราคาแพง พิเศษ และหายาก มีจำนวนจำกัด นอกจากจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับเจ้าของ ส่งต่อเป็นมรดกรุ่นต่อรุ่นแล้ว สิ่งที่ตามมา คือ มูลค่าที่เติบโตตามช่วงเวลาด้วย

"ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ ราคาขายล่าสุดของ "บ้านไข่มุก" คอนโดฯ โครงการแฟล็กชิพยุคแรกของบริษัท จากราคาขาย 7 ล้านบาท ปัจจุบัน มีการขายเปลี่ยนมือในราคา 80 ล้านบาท ราคาเติบโตสูงกว่า 1,000% ในช่วงเพียง 30 ปีเท่านั้น"


⁍ ลักชัวรี คอลเลกชัน

จากการตอบรับที่ดีในหลายโครงการของแสนสิริ บริษัทจึงเตรียมรุกกลยุทธ์ใหม่ จัดพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ภายใต้ "แสนสิริ ลักชัวรี่ คอลเลกชั่น" เพื่อหวังตอกยํ้าตำแหน่งผู้นำเซ็กเมนต์ลักชัวรี-ซูเปอร์ลักชัวรี เจาะลูกค้าไฮเอนด์ที่มีกำลังซื้อสูง เบื้องต้น ประกอบไปด้วย แบรนด์ 98 Wireless, บ้านแสนสิริพัฒนาการ, เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ และคุณ บาย ยู รวมมูลค่าโครงการกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป้าหมายการพัฒนาโครงการในคอลเลกชันดังกล่าวนั้น นอกจากจะต้องเป็นโครงการที่มีราคาขายต่อตารางเมตรมากกว่า 3 แสนบาทแล้ว ยังจะขึ้นอยู่กับการได้มาในที่สุดของทำเลที่ตั้งด้วย ทั้งนี้ ในปี 2563 เตรียมเปิดโครงการใหม่ในกลุ่มดังกล่าวรวม 1-2 โครงการ

"ต้องการยกมาตรฐานที่อยู่กลุ่มลักชัวรีเป็นมาตรฐานใหม่ในไทย ซึ่งพอร์ตแสนสิริ ลักชัวรี่ คอลเลกชั่น จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาโปรดักต์ จับลูกค้าไทย-ต่างชาติ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการเลือกใช้ของแพงอย่างเดียว ยังจะประกอบไปด้วยส่วนสำคัญอื่น ๆ ด้วย"


⁍ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ

โครงการล่าสุดที่สะท้อนถึงตัวตนของโปรดักต์ในพอร์ตดังกล่าว คือ "เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ" มูลค่าโครงการ 6.5 พันล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 3.5 แสนบาทต่อตารางเมตร หรือ 30-365 ล้านบาท ขณะนี้ มียอดขายแล้ว 40% เชื่อจะปิดการขายได้ภายในปี 2563 ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพทองหล่อ ส่วนประกอบสำคัญที่จะเพิ่มมูลค่าโครงการในอนาคต หลังราคาที่ดินสูงขึ้น 200% ในช่วง 3 ปี ปัจจุบัน อยู่ที่ 2 ล้านบาทต่อตารางวา

รวมถึงการดีไซน์ระดับเวิลด์คลาส โดยผู้ออกแบบชั้นนำของโลก รูปลักษณ์แปลกตาสูงตระหง่าน เป็นแลนมาร์กสำคัญของย่าน การใช้วัสดุคัดสรรพิเศษ เช่น หินอ่อน กระจก สะท้อนถึงความหรูหรา มีคุณภาพ การใส่ใจในรายละเอียด โคมไฟเครื่องแก้วหรู เฟอร์นิเจอร์มีเอกลักษณ์ และงานอาร์ตหายากของศิลปินชื่อดังที่จะเพิ่มมูลค่าสูงในอนาคต และองค์ประกอบสำคัญสุดท้าย คือ บริการหลังการขาย และสิ่งที่ได้รับในช่วงที่อยู่อาศัย ที่แม้แต่โรงแรมชั้นนำยังตอบโจทย์ไม่ได้ เหล่านี้จะทำให้กลายเป็นโปรดักต์ลักชัวรีอย่างแท้จริง

หน้า 25-26  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,458  วันที่ 4-6 เมษายน 2562