‘รุ่งกิจเรียลเอสเตท’กางแผนรุก รับรถไฟฟ้าสีชมพู-สีส้ม

08 ส.ค. 2560 | 11:37 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ส.ค. 2560 | 18:37 น.
ถนนรามอินทรา-มีนบุรี เริ่มเป็นอีกโซนพื้นที่ที่ได้รับการจับตามองหลังจากโครงการรถไฟฟ้าเริ่มขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ดำเนินการและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่าจ้างให้กลุ่มบีเอสอาร์ที่มีบริษัทบีทีเอสฯเป็นแกนนำรับงานก่อสร้างและบริหารจัดการโครงการดังกล่าวส่งผลให้ถนนแจ้งวัฒนะ รามอินทรา และถนนที่มุ่งหน้าสู่พื้น ที่มีนบุรี ย่านบางชัน คลองสามวา นิมิตใหม่ หทัยราษฎร์ มีความคึกคักมากขึ้นโดยเฉพาะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ

เช่นเดียวกับบริษัท รุ่งกิจเรียลเอสเตท จำกัด หนึ่งในผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โซนย่านรามอินทรา-มีนบุรีภายใต้แบรนด์ RK Park รามอินทรา ซาฟารี, RKHome Park, The Eiffel, The RUX, RK Biz center มอเตอร์ เวย์-แอร์พอร์ตลิงค์, HAUS the hamburg และ The Regent Street ก็ได้เตรียมแผน การรุกตลาดเพื่อรองรับการพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีส้ม ตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี) เอาไว้ด้วยเช่นกัน

นายวรยุทธ กิตติอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งกิจเรียลเอสเตท จำกัด ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแนวทางการรุกตลาดและกลยุทธ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการต่างๆ ของกลุ่มอาร์เคว่าถนนรามอินทราจัดว่าเป็นถนนเมนหลักที่เดินทางสู่ภาคตะวันออกที่จะเป็นจุดจอดรถไฟความเร็วสูงเส้นทางสู่ภาคตะวันออกอย่างจังหวัดฉะเชิงเทราจะเชื่อมโยงกันได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น โดยตามแผนรัฐบาลจะให้เป็นเส้นทางรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งโซนลาดกระบัง มีนบุรี รามอินทรา คลองสามวา สายไหม และวัชรพลหรือเรียกว่าโซนตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพมหานครยังคงได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาโครงการระดับเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลอีกด้วย

[caption id="attachment_190920" align="aligncenter" width="503"] วรยุทธ กิตติอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งกิจเรียลเอสเตท จำกัด วรยุทธ กิตติอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งกิจเรียลเอสเตท จำกัด[/caption]

++เปิดแผนครึ่งปี 60 ยันปีหน้า
ปัจจุบันกลุ่มอาร์เค ยังคงรุกโครงการบ้านแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม รวม 7 โครงการ โดยมีแผนจะเปิดให้บริการทั้งปีนี้และปีหน้ารวม 4 โครงการ มีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ โดยราคาบ้านในโซนพื้นที่ดังกล่าวยังไม่สูงมากนัก ระดับราคา 1-2 ล้านบาทต้นๆ จึงยังไม่หวือหวามากนัก โครงการอาจจะปิดการขายช้าไปบ้าง แต่หากรถไฟฟ้าเปิดให้บริการราคาจะมีการปรับเพิ่มขึ้นบ้างและประการสำคัญมูลค่าเพิ่มของแต่ละโครงการก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่คาดว่าช่วงนี้ยังรอจังหวะเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศดีขึ้น แต่ยังมั่นใจว่าประชาชนในพื้นเพโซนนี้ยังให้การตอบรับโครงการของ บริษัทอย่างต่อเนื่อง

“มองโอกาสเมื่อรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่รามอินทรา-มีนบุรีเปิดบริการไว้แล้ว โดยได้ทำแผนธุรกิจในการเติบโตของบริษัทไว้ที่ 20% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 6 ปีต่อเนื่องกันมา ช่วงนี้เพียงชะลอการก่อสร้างลงไปบ้างเท่านั้น แต่ยังมีสต๊อกรองรับไว้พอสมควร กำหนดเปิดตัวโครงการปีละ 2 โครงการยังเน้นการเปิดในเฟสที่ดี ส่วนการขายเมื่อเทียบกับรายอื่นถือ ว่าราคายังถูกกว่า แถมยังได้สเปซมากกว่า ส่วนมาตรฐานของเราอยู่ในระดับเดียวกันกับบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ”

++เกาะแนวสายสีส้ม-สีชมพู
โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ยังเตรียมไว้ราว 200 ยูนิต รูปแบบโฮมออฟฟิศราว 30% ทาวน์โฮม 60% ส่วนที่เหลือเป็นบ้านเดี่ยว โครงการที่ดำเนินการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างมาก ทาวน์โฮม 2-3 ล้านบาทยังมีคลับเฮาส์ ฟิตเนส สระว่ายนํ้าบริการ ดังนั้นเมื่อรถไฟฟ้าสายสีส้มที่อยู่บนถนนรามคำแหง โซนนั้นยังมีโครงการโฮมออฟฟิศและทาวน์โฮม 3 ชั้นแบรนด์ Eiffel จำนวน 204 ยูนิต โดยโฮมออฟฟิศจำนวน 71 ยูนิต ดีไซน์เด่นสถาปัตยกรรมหอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันถนนโดยรอบพื้นที่กำลังขยาย อาทิ กรุงเทพกรีฑา ร่มเกล้า และด่านทับช้าง รองรับจากธุรกิจออนไลน์ที่จะเพิ่มสาขาเพื่อกระจายสินค้าและบริการไปสู่ธุรกิจเอสเอ็มอีได้เลยทันที

“ในปีหน้าที่ยังคาดว่าจะมีปัจจัยบวกหลายประการนั้น เชื่อว่าภาวะโดยรวมจะดีกว่าปีนี้ งานสำคัญๆ จะออกมากระตุ้นกำลังซื้อปลายปีมากขึ้น โดยกลุ่มอาร์เค เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ดังนั้นช่วงนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ราคาถูกที่สุด โดยตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นมาได้ลดราคาให้ ลูกค้าอย่างต่อเนื่องบางโครงการลดมากถึง 1 ล้านบาท”

ในส่วนสายสีชมพูจะมีโครงการบนถนนพระยาสุเรนทร์ และถนนเลียบคลองสอง ถนนหทัยราษฎร์ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการดินทางที่จะมีโครงการ RK Park รามอินทรา ซาฟารี รองรับ ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ 170 ตร.ม.ขายเพียง 2.79 ล้านบาท มีคลับเฮาส์ สระว่ายนํ้า

“ขณะนี้พบว่ามีครอบครัวคนรุ่นใหม่เข้ามาอยู่อาศัยแล้วจำนวนมากขึ้น โครงการมีพื้นที่การขยายครอบครัวรองรับอนาคตไว้ให้แล้ว”

++มองแนวโน้มราคาที่ดิน
ปัจจุบันถนนเลียบคลองสองยังได้รับการจับตามองถึงแนวโน้มความเจริญ ราคาที่ดินจึงค่อยๆ ปรับสูงขึ้น แปลงใหญ่อยู่ในระดับราคาไร่ละ 10 ล้านบาทขึ้นไปในเร็วๆ นี้ทาวน์โฮม 2 ชั้นจะเริ่มหายากขึ้น จะขยับเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นหรือบ้านเดี่ยวราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป

ทั้งนี้ เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการราคาที่ดินโซนติดถนนรามอินทราราคาจะเริ่มขยับตารางวาละ 1.2 แสนบาทขึ้นไปเกือบทั้งโซน และยังเชื่อว่าเมื่อลงมือก่อสร้างราคาที่ดินจะมีการขยับเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่ดินในซอยหลักๆ ระยะห่างจากถนนเมนหลักประมาณ 1 กิโลเมตร ราคาประมาณตารางวาละ 7.5 หมื่นบาท ดังนั้นเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการราคาดังกล่าวคงจะหาซื้อได้ยากมากขึ้น ราคาคาดว่าจะเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 1 หมื่นบาท

“อยากให้รัฐกำหนดมาตรการส่งเสริมให้ผู้กู้รายย่อยได้มีโอกาสมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มคนเหล่านั้นสามารถมีบ้านเป็นของตนเองในหลายช่องทางขึ้นอยู่กับประเภทลูกค้าว่าสนใจสถาบันการเงินไหน” นายวรยุทธ กล่าว

ประการสำคัญในเร็วๆ นี้โซนถนนรามอินทราทราบว่าจะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่เกิดขึ้นนอกเหนือจากแฟชั่นไอส์แลนด์ ปัจจุบันมีแหล่งท่องเที่ยวอย่างสวนสยาม สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ที่จะเป็นจุดดึงดูดการพัฒนาเมืองให้เจริญก้าวหน้า ยิ่งเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแนวโน้มความเจริญของพื้นที่ก็จะมีมากตามไปด้วยอย่างแน่นอน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,285 วันที่ 6 -9 สิงหาคม พ.ศ. 2560