ยักษ์อสังหาฯบุรีรัมย์ บุกพัทยาผุดโครงการ 500 ล้าน
“พงษ์พิทยา พร็อพเพอร์ตี้” บิ๊กอสังหาฯบุรีรัมย์ บุกเมืองพัทยา ซุ่มจองทำเลทองเปิดโครงการบ้านพักตากอากาศ แกรนด์ วิลล่า พัทยา มูลค่า 500 ล้าน เผยมียอดขายแล้วกว่า 50% พร้อมเร่งเปิดเฟส 2 ชี้โครงการภาครัฐช่วยเสริมศักยภาพที่ดิน
นางปารดา พิทยาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พงษ์พิทยา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้คร่ำหวอดในธุรกิจก่อสร้างมากว่า 20 ปี ภายใต้กลุ่มห้างหุ้นส่วนจำกัด เค.เอ.พี.เพาเวอร์ ( KAP Group )ในจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ว่า บริษัทได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวตั้งแต่ปี 2556 เพื่อพัฒนาโครงการบ้านพักตากอากาศ แกรนด์ วิลล่า พัทยา (GRAND VALLEY PATTAYA) มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพของเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองแห่งการพักผ่อนและท่องเที่ยวอันดับต้นๆของประเทศ โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวปีละกว่า 9 ล้านคน และด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการที่อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆของเมืองพัทยา แต่เป็นโซนที่มีความเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อน และที่สำคัญอยู่ห่างจากสนามบินอู่ตะเภาเพียง 20 นาที ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทสามารถปิดการขายเฟสแรกไปได้แล้วถึง 50% ของจำนวนบ้านทั้งหมด 43 หน่วย ระดับราคา 8.4-15.6 ล้านบาท หลังจากเริ่มเปิดขายตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2558
จากความสำเร็จดังกล่าว ล่าสุด GRAND VALLEY PATTAYA ได้เปิดบ้านเฟส 2 อีกจำนวน 23 หน่วย ระดับราคา 10.5-19.5 ล้านบาท พร้อมนำเสนอแบบบ้านใหม่ 2 แบบ คือ แบบ Lake View A Plus บ้านเดี่ยว 2 ชั้น วิวทะเลสาบส่วนตัว และ แบบ Grand Hill A Plus บ้านเดี่ยว 2 ชั้น วิวเขาชีจรรย์บน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 343 ตารางเมตร โดยฟังก์ชั่นการใช้งาน ได้มีการขยายและปรับส่วนพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสม ด้วยการเพิ่มโถงให้ดูโปร่งโอ่โถงขึ้น และขยายพื้นที่ส่วนห้องรับแขกให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ในฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว สระว่ายน้ำส่วนตัวขนาด 40 ตารางเมตร พื้นที่ Party รอบสระว่ายน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน พร้อมที่จอดรถ 2 คัน
แบบบ้านที่ 2 คือ แบบ Grand Hill C Plus บ้านเดี่ยว 1 ชั้น วิวเขาชีจรรย์ บนพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 314 ตารางเมตร ปรับให้สไตล์บ้านดูกว้างขวางและทันสมัยมากขึ้น พื้นที่ใช้สอยสะดวกเชื่อมหากันอย่างลงตัว เสริมด้วยพื้นที่ปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ ด้วยฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว สระว่ายน้ำส่วนตัวขนาด 40 ตรม.พร้อมที่จอดรถ 2 คัน ซึ่งจากแบบบ้านที่ตอบโจทย์การพักผ่อนรวมถึงทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพและเป็นทำเลแห่งอนาคต ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถปิดโครงการได้ภายในปี 2563
“ทำเลที่ตั้งของโครงการถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพมาก เพราะนอกจากจะใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆของเมืองพัทยา อาทิ เขาชีจรรย์ ไร่องุ่นซิลเวอร์แลค สวนน้ำรามายาณะ สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ค และสวนนงนุช แล้ว ยังสามารถเดินทางเข้าออกได้หลายทางทั้งถนนสุขุมวิท และทางหลวงหมายเลข 331 เลี่ยงเมืองพัทยาเชื่อมต่อถนนมอเตอร์เวย์ได้อย่างสะดวกสบาย ประกอบกับล่าสุดรัฐบาลมีแผนที่จะดำเนินการพัฒนาโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยเบื้องต้นประกาศให้พื้นที่ของสนามบินอู่ตะเภาเป็นเขตส่งเสริมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ เมืองการบินภาคตะวันออก รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ยิ่งทำให้ที่ตั้งของโครงการมีศักยภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น” นางปารดา กล่าว