Play
ชี้ปี2560วิกฤติรายย่อยเหตุบ.ใหญ่ถล่มราคา
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์อสังหาฯชี้ปี 2560 วิกฤติรายย่อย แบรนด์รายใหญ่เรียกลูกค้าได้มากกว่า พร้อมทำสงครามราคา ดึงดูดรายได้
นายธงชัย ปิยสันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเนอจี้ จำกัด นักกลยุทธ์อสังหาริมทรัพย์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์จากปี 259 ซึ่งกำลังซื้อค่อนข้างถดถอย เพราะปัญหาภาวะเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ต่อเนื่องถึงปีนี้ จะส่งผลกระทบรุนแรงมากกับผู้ประกอบการรายย่อย เพราะขนาดเงินทุนแตกต่างจากผู้ประกอบการรายใหญ่ ต้องใช้เงินลงทุนของตัวเองส่วนหนึ่ง อีกส่วนขอสินเชื่อจากธนาคาร ขณะที่รายใหญ่มีเครื่องมือในการระดมทุนรวมทั้งสถาบันการเงินก็พร้อมให้สินเชื่ออย่างเต็มที่ ปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหญ่และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวนประมาณ 40 บริษัท ครองตลาดประมาณ 70% ส่วนรายย่อยมีประมาณ 1,600 บริษัท มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30%
โดยกลยุทธ์รายใหญ่จะเปิดโครงการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร เพราะมีที่ดินที่ซื้อไว้แล้วจำนวนมาก ทำให้ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หลายบริษัทมีสินค้าเหลือค้างเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะราคา 1-3 ล้านบาท ยังคงเหลือที่จะต้องใช้เวลาย่อยในปี 2560 และ 2561 อีกประมาณ 3 หมื่นหน่วย จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่รายใหญ่จะใช้กลยุทธ์ลด แลก แจก แถม อย่างรุนแรงเพื่อสร้างรายได้ ดังนั้นในปีนี้และต่อเนื่องปีหน้าอาจได้เห็นสงครามราคาระหว่างรายใหญ่ แน่นอนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบรายย่อย โดยลูกค้าที่จองโครงการทิ้งดาวน์ และหันไปซื้อของรายใหญ่แทน เพราะแบรนด์น่าเชื่อถือ ราคาใกล้เคียง และทำเลดีกว่าอยู่ใกล้ถนนใหญ่ หรือถนนเมน
“หากสงครามราคาเกิดขึ้นต่อเนื่อง ในปีนี้อาจเห็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ทุนไม่หนาพอ อาจต้องเลิกกิจการไป คาดว่าประมาณ 10% ถ้า 1 โครงการล้มไปส่งผลกระทบต่อเนื่องผู้คนจำนวนมาก ทั้งเจ้าหน้าที่-พนักงาน-ผู้บริหารงานของโครงการนั้นๆ รวมถึงคนที่ทำงานให้กับอีกกว่า 20 สายงานธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการอสังหาฯ นั้นๆ ตลอดจนลูกค้าที่ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์พร้อมทั้งเข้าอยู่แล้วและลูกค้าที่ผ่อนดาวน์อยู่”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,228 วันที่ 19 - 21 มกราคม 2560
นายธงชัย ปิยสันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเนอจี้ จำกัด นักกลยุทธ์อสังหาริมทรัพย์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์จากปี 259 ซึ่งกำลังซื้อค่อนข้างถดถอย เพราะปัญหาภาวะเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ต่อเนื่องถึงปีนี้ จะส่งผลกระทบรุนแรงมากกับผู้ประกอบการรายย่อย เพราะขนาดเงินทุนแตกต่างจากผู้ประกอบการรายใหญ่ ต้องใช้เงินลงทุนของตัวเองส่วนหนึ่ง อีกส่วนขอสินเชื่อจากธนาคาร ขณะที่รายใหญ่มีเครื่องมือในการระดมทุนรวมทั้งสถาบันการเงินก็พร้อมให้สินเชื่ออย่างเต็มที่ ปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหญ่และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวนประมาณ 40 บริษัท ครองตลาดประมาณ 70% ส่วนรายย่อยมีประมาณ 1,600 บริษัท มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30%
โดยกลยุทธ์รายใหญ่จะเปิดโครงการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร เพราะมีที่ดินที่ซื้อไว้แล้วจำนวนมาก ทำให้ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หลายบริษัทมีสินค้าเหลือค้างเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะราคา 1-3 ล้านบาท ยังคงเหลือที่จะต้องใช้เวลาย่อยในปี 2560 และ 2561 อีกประมาณ 3 หมื่นหน่วย จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่รายใหญ่จะใช้กลยุทธ์ลด แลก แจก แถม อย่างรุนแรงเพื่อสร้างรายได้ ดังนั้นในปีนี้และต่อเนื่องปีหน้าอาจได้เห็นสงครามราคาระหว่างรายใหญ่ แน่นอนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบรายย่อย โดยลูกค้าที่จองโครงการทิ้งดาวน์ และหันไปซื้อของรายใหญ่แทน เพราะแบรนด์น่าเชื่อถือ ราคาใกล้เคียง และทำเลดีกว่าอยู่ใกล้ถนนใหญ่ หรือถนนเมน
“หากสงครามราคาเกิดขึ้นต่อเนื่อง ในปีนี้อาจเห็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ทุนไม่หนาพอ อาจต้องเลิกกิจการไป คาดว่าประมาณ 10% ถ้า 1 โครงการล้มไปส่งผลกระทบต่อเนื่องผู้คนจำนวนมาก ทั้งเจ้าหน้าที่-พนักงาน-ผู้บริหารงานของโครงการนั้นๆ รวมถึงคนที่ทำงานให้กับอีกกว่า 20 สายงานธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการอสังหาฯ นั้นๆ ตลอดจนลูกค้าที่ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์พร้อมทั้งเข้าอยู่แล้วและลูกค้าที่ผ่อนดาวน์อยู่”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,228 วันที่ 19 - 21 มกราคม 2560