โครงการอาคารเช่าผู้มีรายได้น้อยการเคหะฯ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิต

26 พ.ย. 2564 | 08:37 น.

การเคหะแห่งชาติ  ผลักดัน “โครงการอาคารเช่าผู้มีรายได้น้อย” ยกระดับคุณภาพชีวิต เผยผู้เช่าโครงการสมุทรสาคร ( กระทุ่มแบน 3)  ประสานเสียง มั่นใจการดูแล ลดภาระค่าใช้จ่าย ปลอดภัย เดินทางสะดวก

 

ภายหลังจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ เปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนจองสิทธิ์ “โครงการอาคารเช่าผู้มีรายได้น้อย” และสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ทันที 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร จำนวน 196 หน่วย กาญจนบุรี จำนวน 79 หน่วย มหาสารคาม จำนวน 138 หน่วย สุรินทร์ จำนวน 163 หน่วย และอุบลราชธานี จำนวน 242 หน่วย รวมทั้งสิ้น 818 หน่วย

 

 ล่าสุดนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ส่งมอบโครงการอาคารเช่า สมุทรสาคร (กระทุ่มแบน 3 ) โดยให้สิทธิ์ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจองสิทธิ์ตั้งแต่วันที่จองสิทธิ์ผ่านระบบออนไลน์ก่อนเป็นอันดับแรก ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

มีประชาชนสนใจลงทะเบียน จำนวน 88 ราย โดยผ่านเกณฑ์ได้สิทธิการเช่า จำนวน 86 ราย และกำหนดเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนจองสิทธิ์เช่าเป็นลำดับถัดไปตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป ที่สำนักงานเคหะจังหวัด สาขาสมุทรสาคร 2 

โครงการอาคารเช่าผู้มีรายได้น้อยการเคหะฯ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิต

สำหรับโครงการอาคารเช่าสมุทรสาคร (กระทุ่มแบน 3) จัดสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยในราคาที่สามารถรับภาระได้ ตั้งอยู่บนที่ดินของการเคหะแห่งชาติ จำนวน 7 ไร่ มี 4 อาคาร สูง 4 ชั้น ขนาดพื้นที่ห้องพักอาศัยประมาณ 28 - 31 ตารางเมตร รวมทั้งสิ้น 196 หน่วย โดยชั้น 1 เป็นห้องผู้สูงอายุ และผู้พิการ รวม 40 ห้อง ค่าเช่า 2,400 บาทต่อเดือน ชั้น 2-4 ค่าเช่า 2,100-2,500 บาทต่อเดือน มีค่าเงินประกันการเช่า 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม โครงการอาคารเช่าดังกล่าวกำหนดให้ความสำคัญผู้ได้สิทธิ เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการอันดับแรก และให้ผู้มีรายได้น้อยได้เช่าอยู่อย่างแท้จริง ตามมติ ครม. ดังนั้น จึงกำหนดเกณฑ์เป็น 4 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 : เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อายุตั้งแต่ 50 - 59 ปี และอายุ 60 ปี ขึ้นไป (ผู้สูงอายุ) บริบูรณ์นับตั้งแต่วันทำสัญญา หรือผู้พิการ

กลุ่มที่ 2 : ไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อายุตั้งแต่ 50 - 59 ปี และอายุ 60 ปี* ขึ้นไป (ผู้สูงอายุ) บริบูรณ์นับตั้งแต่วันทำสัญญา หรือผู้พิการ กลุ่มที่ 3 : เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อายุ 20 - 49 ปีบริบูรณ์นับตั้งแต่วันทำสัญญา และกลุ่มที่ 4 : ประชาชนทั่วไป หรือข้าราชการโดยจะให้สิทธิกลุ่มที่ 1 เป็นลำดับแรก สามารถเลือกพักอาศัยชั้น 1

โดยให้กลุ่มที่ 2,3,4 เป็นลำดับถัดไป พร้อมทั้งกำหนดสัดส่วนของการพักอาศัยให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ร้อยละ 60 และข้าราชการ ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ร้อยละ 40

โครงการอาคารเช่าผู้มีรายได้น้อยการเคหะฯ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิต

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเคหะแห่งชาติเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในด้านการพัฒนา

ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยมีแผนการดำเนินงานจัดสร้างโครงการอาคารเช่าจำนวน 117,471 หน่วย ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว (Housing for all) และนายจุติ

ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยในชุมชนที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ด้าน นายราชัญ คำรัง อายุ 28 ปี อาชีพค้าขายของออนไลน์ ให้เหตุผลที่มาเช่าโครงการอาคารเช่าสมุทรสาคร (กระทุ่มแบน 3) ว่า เนื่องจากทำเลที่ตั้งดี มีศักยภาพ การเดินทางสะดวก บริเวณโครงการสะอาด มีความปลอดภัย เพราะมีกล้องวงจรปิด CCTV ทุกอาคาร ทุกชั้น ที่สำคัญค่าเช่าถูกเพียงเดือนละ 2,400 บาท

โครงการอาคารเช่าผู้มีรายได้น้อยการเคหะฯ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิต

จากที่ปัจจุบันเสียค่าเช่าเดือนละ4,500 บาท และด้วยทำเลที่ใกล้ชุมชน จึงชวนคุณแม่มาเช่าอยู่ในโครงการด้วย เพราะบริเวณใกล้โครงการฯ เป็นย่านชุมชนสามารถค้าขายได้ ซึ่งจะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เพราะสามารถทำงานและดูแลคุณแม่ได้ด้วย

ขณะที่ นางสาวมยุรี ฉิมพลีวัฒน์ อายุ 53 ปี อาชีพขายลูกชิ้นทอด บอกว่า เมื่อมาดูโครงการอาคารเช่าสมุทรสาคร (กระทุ่มแบน 3)  แล้วพบว่า สภาพแวดล้อมดี มีความเป็นส่วนตัว มีความปลอดภัย มีการติดกล้อง CCTV ทุกอาคารทุกชั้น และมี รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งค่าเช่ายังถูกกว่าโครงการทั่วไป ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้มากและจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย

โครงการอาคารเช่าผู้มีรายได้น้อยการเคหะฯ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิต