"จุรินทร์"ลุยบางคอแหลม แนะนำผู้สมัครส.ส. มั่นใจปักธงกู้คืนศักดิ์ศรีปชป.

08 ม.ค. 2566 | 10:11 น.

"จุรินทร์"นำทีมลงพื้นที่บางคอแหลม แนะนำ “อภิมุข ฉันทวานิช” อดีต ส.ก. 3 สมัย เป็นผู้สมัครส.ส. มั่นใจคว้าเก้าอี้ กู้คืนศักดิ์ศรี ปชป.


วันนี้(8 ม.ค.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กรุงเทพมหานคร(กทม.)  นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค พร้อมด้วยสมาชิกพรรค ลงพื้นที่ชุมชนหลังตลาดเก่า วัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม ตามโครงการ“จุรินทร์ออนทัวร์ บางคอแหลม” โดยมี นายอภิมุข ฉันทวานิช เป็นผู้ประสานงานลงพื้นที่

 

นายจุรินทร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็หวังและมั่นใจว่า พี่น้องจะให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ ได้ปักธงผู้แทนราษฎรในพื้นที่นี้ 


โดยได้แนะนำทายาททางการเมืองของ นายสมเกียรติ ฉันทวานิช อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ คือ นายอภิมุข ฉันทวานิช อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 3 สมัย มีพื้นฐานการศึกษาดี พร้อมที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็น ส.ส.ได้ หากพี่น้องช่วยกันสนับสนุน


“ผมมั่นใจว่าเที่ยวหน้าประชาธิปัตย์ได้ปักธงในกรุงเทพฯ แน่นอน และเราก็มีโอกาสที่จะได้ในหลายพื้นที่ เพียงแต่ขอยังไม่บอกว่ากี่นั่ง แต่มั่นใจว่าเราปักธงในกรุงเทพฯ ได้เที่ยวหน้า จากคราวที่แล้วไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว” 

 

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ในพื้นที่นี้ก็ถือว่าเป็นพื้นที่เป้าหมายอีกพื้นที่หนึ่ง คือ ส่งนายอภิมุข ฉันทวานิช ซึ่งเป็น ส.ก. มา 3 สมัย และเป็นลูกนายสมเกียรติ ฉันทวานิช ที่เป็น ส.ส.ประชาธิปัตย์ มาอย่างยาวนาน 4 สมัย และไม่เคยเปลี่ยนพรรค 


เพราะฉะนั้นถือว่า นายอภิมุข เป็นคนหนุ่มที่มีประสบการณ์การทำงานท้องถิ่นในฐานะ ส.ก. และจบปริญญาตรี ปริญญาโท จากสหรัฐอเมริกา มีศักยภาพ ทำพื้นที่ต่อเนื่อง และสัมพันธ์กับพี่น้องในพื้นที่มาอย่างดีตลอดระยะเวลา 
“ที่นี่จึงเป็นอีก 1 เขต ที่เรามั่นใจว่าเราปักธงได้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว


ส่วนที่มีพี่น้องประชาชนถามเรื่องคอร์รัปชัน นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นห่วงที่สุดเรื่องหนึ่งคือ การทุจริตคอร์รัปชัน เรื่องนี้เป็นภารกิจหลักที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน รวมทั้งฝ่ายการเมืองและพี่น้องประชาชนด้วย ต้องไม่สนับสนุน 
“ธนกิจการเมือง” หรือ “ธุรกิจการเมือง” เพราะจะเป็นต้นตอของการนำมาซึ่งการถอนทุนคืน และการทุจริตคอร์รัปชันต่อไป 


“เพราะฉะนั้นใครขายตัว ใครลงทุนด้วยการซื้อตัว ดูดผู้แทน หัวนึง มหาศาล อันนั้นก็อาจจะต้องคะเนได้ว่า สุดท้ายมันก็ไปจบที่ถอนทุนคืน คือการทุจริต คอร์รัปชันต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นภัยร้ายของประเทศ ของประชาธิปไตย ทุกคนต้องช่วยกันในเรื่องนี้ รวมทั้งประชาธิปัตย์ก็ถือว่าการต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชัน การเดินหน้าประชาธิปไตยสุจริต เป็นแนวทางและนโยบายสำคัญของประชาธิปัตย์อีกเรื่องหนึ่ง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ