KEY
POINTS
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 12 ธ.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเปิดเผยว่า ได้มีการนัดหมายพูดคุยทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในเวลา 21.20 น. ของคืนนี้ เพื่ออัปเดตความคืบหน้าล่าสุด หลังการหารือครั้งก่อนหน้าเมื่อช่วงที่ นายอนุทินเดินทางร่วมคณะไปประเทศจีน ซึ่งผ่านมาเกือบหนึ่งเดือน
นายอนุทิน ระบุว่า แม้จะมีการหารือกับผู้นำต่างประเทศ แต่การตัดสินใจดำเนินการใดๆ ยังคงเป็นอำนาจของรัฐบาลไทย โดยมอบหมายกองทัพเป็นผู้ประเมินและดำเนินงานตามความจำเป็นด้านความมั่นคง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความกังวลของประชาชนในพื้นที่ชายแดนหลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา นายอนุทิน ย้ำว่า “รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน” แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่หากเป็นเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนก็สามารถชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้
พร้อมระบุว่า กรอบเวลาจัดการเลือกตั้งนับจากนี้ รวมถึงกระบวนการรับรองผลและตั้งรัฐบาลใหม่ ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 5-6 เดือน
ในประเด็นว่า สถานการณ์ปะทะชายแดนจะยุติก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวอย่างระมัดระวังว่า “เรื่องการปกป้องอธิปไตย ทหารเขาทำเต็มที่”
ส่วนข่าวลือที่ว่า สมเด็จฮุน เซน ประกาศให้กัมพูชาหยุดยิงนั้น นายอนุทิน ตอบกลับทันทีว่า ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ และหลังจากเสร็จภารกิจในทำเนียบฯ จะเดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อฟังการประเมินสถานการณ์โดยตรง ก่อนที่ช่วงค่ำวันเดียวกันจะต้องสนทนากับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และต่อด้วยการพูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงข้อสังเกตที่ว่า การยุบสภาของไทยเกิดขึ้นไล่เลี่ยกับกระแสข่าวฮุน เซนสั่งหยุดยิง ทำให้ถูกมองว่าทั้งสองรัฐบาลอาจมีการสมรู้ร่วมคิดกัน นายอนุทินตอบชัดว่า “ไม่มีหรอกครับ ผมยุบสภาเพราะหัวหน้าพรรคประชาชนบอกให้ยุบ ผมก็ยุบ”
สำหรับรายงานเรื่องฝ่ายกัมพูชากักตัวคนไทยที่ด่านปอยเปต นายอนุทิน ยืนยันว่า ได้รับรายงานแล้ว และมอบให้ฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ท้ายสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นที่มีการอ้างว่า นายอนุทิน เคยให้ นายเบน สมิธ ยืมเครื่องบินส่วนตัว นายอนุทิน เพียงหันหน้ามองผู้สื่อข่าว โดยไม่กล่าวตอบคำถามใดๆ