เพื่อไทยผุดแคมเปญ“สร้างโอกาส ล้างหนี้ มีกิน” ตั้งเป้าเรียกศรัทธาคืน

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งถัดไป ว่า พรรคเพื่อไทยได้เริ่มเปิดยุทธศาสตร์ใหม่ในเชิงนโยบาย เพื่อฟื้นศรัทธาจากประชาชน และเตรียมพร้อมรับมือกับการเลือกตั้งใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้เริ่มดำเนินการจัดทำ “เวิร์กช็อป 2 ระดับ” เพื่อระดมความคิดเห็นในการออกแบบนโยบายใหม่ของพรรค โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ดูแลภาพรวมของคณะทำงานด้านนโยบาย 

1.การจัดเวิร์กช็อปภายในระหว่าง ส.ส.และทีมยุทธศาสตร์พรรค เพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายสำคัญในแต่ละมิติ

2.จะเป็น เวิร์กช็อปเชิงพื้นที่ เช่น ด้านเกษตร จะให้ ส.ส.และคณะทำงานลงพื้นที่พบปะเกษตรกรโดยตรง เพื่อสอบถามความต้องการและข้อเสนอแนะ เช่นเดียวกับนโยบายด้าน เอสเอ็มอี ที่จะมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศ

“โจทย์แรกของพรรค คือ การกลับไปสู่รากฐาน – แบ็กทูเบสิก - ทำให้นโยบายเข้าใจง่าย สัมผัสได้ และตรงใจประชาชน”

แคมเปญใหม่“สร้างโอกาส ล้างหนี้ มีกิน”

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงการเปิดแคมเปญหาเสียงใหม่ของพรรคว่า ในเร็วๆ นี้ พรรคจะเปิดตัวชุดนโยบายหลักภายใต้แนวคิด “สร้างโอกาส ล้างหนี้ มีกิน” ซึ่งยังคงเน้นแก้ปัญหาปากท้อง ความเป็นอยู่ และโอกาสทางเศรษฐกิจของประชาชน โดยยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยยังคงเดินบนเส้นทาง “นโยบายเพื่อประชาชน” เหมือนเดิม

“ในมิตินโยบาย พรรคเราไม่เป็นรองใคร เพราะเรามีทีมทำงานที่ทำต่อเนื่องมาเป็นเดือนแล้ว เชื่อว่านโยบายใหม่ของเราจะกลายเป็นจุดแข็งอีกครั้ง ที่ตอบโจทย์ประชาชนได้ตรงที่สุด” นายจุลพันธ์ กล่าว

ซักฟอกรัฐบาลแน่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคประชาชน (ปชน.) เปิดแคมเปญ “มีเรา ไม่มีเทา” นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นแนวทางของเขา พรรคเพื่อไทยยืนยันมาตลอดว่า ได้เตือนเรื่องการตั้งรัฐบาลตั้งแต่ต้น และไม่ได้ปิดบังองค์ประกอบใด

“เราบอกแล้วว่าการจัดตั้งรัฐบาลต้องคิดให้รอบคอบ เพราะเราก็รู้กันอยู่ว่า มีใครร่วมบ้างตั้งแต่ต้น ฉะนั้น การที่พรรคประชาชนจะพูดถึง สีเทา ตอนนี้ ก็ต้องกลับไปพิจารณาตัวเอง เพราะคนตั้งรัฐบาลชุดนี้คือเขาเอง”

นายจุลพันธ์ กล่าวพร้อมย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงนี้

ยันฐานเสียง"เพื่อไทย"แน่น

นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยอาจอยู่ในช่วง “ขาลง” ตามผลสำรวจบางสำนักที่ชี้ว่า คะแนนนิยมลดลงเหลือราว 10–20% แต่ยืนยันว่า พรรคยังมีฐานเสียงแน่น และมีผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจถึงกว่า 30% ซึ่งถือเป็นโอกาสในการกลับมาทวงพื้นที่

“คนที่สนับสนุนเพื่อไทยยังมีอยู่กว่า 10 ล้านเสียง เราไม่ได้อยู่ในสถานะที่เลวร้าย แต่เป็นช่วงยกเครื่องใหม่ ต้องปรับการสื่อสารให้เข้มแข็งและเชิงรุกมากขึ้น” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะเร่งปรับ 3 ด้านหลัก คือ

1.การสื่อสารเชิงรุก เพื่อสร้างภาพจำใหม่ ไม่ตั้งรับ

2.การคัดเลือกผู้สมัครคุณภาพ ที่รู้จักพื้นที่และประชาชนอย่างแท้จริง

3.การยกระดับงานสภาและนโยบาย ให้เป็น “นโยบายแห่งความหวังของสังคม”

ชู 3 แคนดิเดตนายกฯ มัดใจประชาชน

ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ นายจุลพันธ์ เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จำนวน 3 รายชื่อ ซึ่งจะเป็นบุคคลที่มีความพร้อม และเป็นที่ยอมรับของประชาชน

“เราจะเลือก 3 ชื่อที่ตรงใจพี่น้องประชาชนที่สุด เพราะเรามั่นใจว่าความยอมรับจากประชาชน คือ กุญแจสำคัญของชัยชนะในการเลือกตั้ง” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำ

ส่วนกรณีการนำเอานโยบายของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่ยังทำไม่สำเร็จ มาปัดฝุ่นใช้อีกครั้ง นายจุลพันธ์ ระบุว่า “มีความเป็นไปได้” แต่ต้องรอการพิจารณาและหารือภายในพรรคก่อน