KEY
POINTS
พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี วันที่ 31 ตุลาคม 2568 มีมติเอกฉันท์เลือก นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ขึ้นดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ พร้อมตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จำนวน 29 คน โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง กลับมาดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรค อีกครั้ง
ภายหลังการประชุม นายจุลพันธ์ แถลงต่อสมาชิกพรรคและสื่อมวลชนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ตนเองและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่รู้สึกภาคภูมิใจสูงสุด ที่ได้รับความไว้วางใจให้ขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นบ้านทางการเมืองของตนมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย ตลอดเวลากว่า 25 ปี พรรคนี้ผ่านทั้งความสำเร็จ ความล้มเหลว การต่อสู้ทางการเมืองทุกรูปแบบ ทั้งในสภาและบนท้องถนน เราเคยผ่านการรัฐประหาร การยุบพรรค การตัดสิทธิ์ผู้นำ แต่เรายังยืนหยัดได้จนถึงวันนี้ เพราะหัวใจของเราคือประชาชน”
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภายนอกอาจมองว่าพรรคต้องเปลี่ยนแปลง ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะ “การเมืองเปลี่ยนทุกวัน ประชาชนเปลี่ยนทุกวัน พรรคจึงต้องเปลี่ยนทุกวัน” การยกเครื่องพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็น “สิ่งจำเป็น” เพื่อให้พรรคสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง
“เราเป็นพรรคการเมืองแรกที่ทำให้นโยบายเป็นสิ่งที่ประชาชนจับต้องได้ เป็นนโยบายที่กินได้ ใช้ได้จริง นั่นคือ จิตวิญญาณที่ยังอยู่ในพวกเราทุกคน วันนี้เรายังคงยึดมั่นในหลักการนั้น หัวใจของเราคือประชาชน” นายจุลพันธ์กล่าวย้ำ
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยภายใต้ทีมบริหารชุดใหม่นี้จะเร่ง “ยกเครื่องการสื่อสาร” กับประชาชนให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และสร้างความเชื่อมั่นในแนวทางของพรรค ขณะเดียวกันจะให้ความสำคัญกับการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งที่จะมาถึง โดยเน้น “คนคุณภาพ” ที่เข้าใจพื้นที่และตอบโจทย์พี่น้องประชาชน
“ไม่ใช่ภารกิจที่ง่าย แต่ผมไม่ได้อยู่คนเดียว เรายังมีทีมบริหารและสมาชิกพรรคทุกคน รวมถึงพี่น้องประชาชนอีกนับสิบล้านคน ที่ยังศรัทธาและเป็นกำลังใจให้เรา เพื่อไทยจะเดินหน้าสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า และเปลี่ยนรัฐบาลให้ได้” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
นายจุลพันธ์ ยังเรียกร้องให้สมาชิกพรรคทุกคน “ร่วมแรงร่วมใจ” ในการสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนให้กับประชาชน โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองที่ไทยกำลังเผชิญ
พร้อมย้ำว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าในแนวทางประชาธิปไตย สานต่อนโยบายเศรษฐกิจฐานราก และคืนประโยชน์ให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
“ขอให้พวกเราทุกคนเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นในแนวทางที่เรายึดมั่น และเราจะนำพาประเทศไทยไปสู่ความสำเร็จในอนาคตที่สดใส” นายจุลพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย