KEY
POINTS
การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาชน (ปชน.) เมื่อวันที่ 24-25 ตุลาคม 2568 ที่จังหวัดปทุมธานี กลายเป็นเวทีประกาศศักดิ์ดายุคใหม่ของ “พรรคส้ม” ในชื่อใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งปี 2569 อย่างเต็มรูปแบบ
ณัฐพงษ์ลั่น“มีเรา ไม่มีเทา”
“ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ กล่าวบนเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือจากสมาชิกและผู้สมัครสส.ทั่วประเทศว่า
“วันนี้พรรคประชาชนพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้ง มีเรา ไม่มีเทา มีเรา มีเศรษฐกิจใหม่ มีเรา ประเทศไทยมีอนาคต มีเรา มีประชาธิปไตย และ มีเรา มีคุณภาพชีวิตที่ดี”
ถ้อยคำของหัวหน้าพรรคประชาชน สะท้อนความมุ่งมั่นของ “พรรคส้มรุ่นที่สาม” ที่ต่อยอดจากรากฐานทางการเมืองของ “อนาคตใหม่” และ “ก้าวไกล” เดินเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้เป้าหมายชัดเจน เป็นพรรคที่ “พร้อมบริหารประเทศได้ทันที” หลังเลือกตั้ง
เส้นทางวิวัฒน์ของพรรคส้ม
ณัฐพงษ์ กล่าวในที่ประชุมถึงพัฒนาการทางการเมืองของพรรคในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 3 ยุคสำคัญ
ยุคแรก: พรรคอนาคตใหม่ (Know Why)
ปี 2561 พรรคอนาคตใหม่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบคำถาม “ทำไมต้องมีพรรคนี้” ด้วยเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจนในการยุติวงจรอุบาทว์รัฐประหาร ปฏิรูปกองทัพ และ ทลายทุนผูกขาด พรรคสามารถสร้างปรากฏการณ์ทางการเมืองด้วยการคว้าเก้าอี้ สส. 81 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งปี 2562
ยุคสอง: พรรคก้าวไกล (Know What)
หลังอนาคตใหม่ถูกยุบ พรรคก้าวไกลเกิดขึ้นพร้อม “300 นโยบาย” ที่ครอบคลุมทุกมิติของสังคม และสโลแกน “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” กลายเป็นหมัดเด็ดที่ตอกย้ำอุดมการณ์ประชาธิปไตย จนพรรคก้าวไกลก้าวขึ้นเป็นพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งปี 2566 คว้าเก้าอี้ สส. 151 ที่นั่ง
ยุคสาม: พรรคประชาชน (Know How)
ณัฐพงษ์ อธิบายว่า โจทย์ของยุคนี้คือ “เราจะทำอย่างไร” หรือ Know How พรรคต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่า มีความพร้อมทั้งนโยบาย ทีมงาน และ แผนปฏิบัติที่จะลงมือทำจริงทันทีเมื่อเป็นรัฐบาล
“ปัญหาของประเทศเราหมักหมมมานาน ใครๆ ก็รู้ว่ามีอยู่ แต่วันนี้ถึงเวลาของพรรคประชาชนที่เอาจริงกับมันได้ เราไม่ได้แค่พูด เรามีทั้งนโยบาย แผน และเจตจำนงทางการเมือง” หัวหน้าพรรคประชาชนย้ำ
ชู“4 ค.”โกยสส.เพิ่ม 100 เขต
พรรคประชาชนวางยุทธศาสตร์เพื่อชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างเป็นระบบ โดยใช้สูตร “4 ค.” ประกอบด้วย
1.คู่แข่ง – วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของพรรคอื่นในแต่ละพื้นที่
2.คะแนน – เพิ่มฐานคะแนนจากกลุ่มประชาชนใหม่
3.เครือข่าย – สร้างฐานพรรคระดับจังหวัดและอำเภอ
4.แคนดิเดต – คัดเลือกผู้สมัครที่มีศักยภาพและความพร้อม
ณัฐพงษ์ ประกาศเป้าหมายชัดเจนว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคจะ เพิ่มที่นั่ง สส. อีก 100 เขตทั่วประเทศ (เลือกตั้งปี 2566 ได้ 112 เขต) พร้อมมั่นใจว่า ความนิยมในระดับชาติจะเพิ่มขึ้นจากการทำงานสม่ำเสมอของสมาชิกพรรคในพื้นที่
“เรามีทีมงานที่พูดเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะขึ้นเวทีไหนก็พูดด้วยหลักการเดียวกัน เพราะเราไม่ได้อิงตัวบุคคล แต่อิงอุดมการณ์ร่วมของพรรค นี่คือจุดแข็งของพรรคประชาชน”
5 นโยบายแกนหลัก “มีเรา”
ภายใต้แนวคิด “Know How” พรรคประชาชนได้จัดทำชุดนโยบายและแผนปฏิบัติ 5 หมวดสำคัญ เพื่อเตรียมเสนอประชาชนในการเลือกตั้งปี 2569 ได้แก่
1.“มีเรา ไม่มีเทา” – ปราบทุนสีเทา แก้คอร์รัปชัน ทลายอาชญากรรมไซเบอร์ และ สร้างระบบรัฐโปร่งใส
2.“มีเรา มีคุณภาพชีวิตดี” – พัฒนาสวัสดิการ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงในโลกยุคใหม่
3.“มีเรา มีเศรษฐกิจใหม่” – ปั้นเครื่องจักรเศรษฐกิจยุคดิจิทัล ส่งเสริมนวัตกรรม การลงทุน และ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่
4.“มีเรา มีประชาธิปไตย” – ปฏิรูปกองทัพ รัฐธรรมนูญ และกระบวนการยุติธรรม พร้อมกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
5.“มีเรา ประเทศไทยมีอนาคต” – ปฏิรูประบบราชการ ยกระดับทักษะแรงงาน และเตรียมคนไทยให้เท่าทันโลกอนาคต
นโยบายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิด แต่มีแผนปฏิบัติชัดเจนในแต่ละกระทรวง ซึ่ง ณัฐพงษ์ ยืนยันว่า พรรคประชาชนเตรียมทีมบริหารไว้ครบทุกกระทรวงแล้ว และจะเปิดตัว “ว่าที่รัฐมนตรี” อย่างเป็นทางการหลังการยุบสภา
การเมืองเปลี่ยนได้จากประชาชน
ณัฐพงษ์ กล่าวย้ำว่า การมี “เจตจำนงทางการเมืองที่แท้จริง” คือสิ่งที่ทำให้พรรคประชาชนแตกต่างจากพรรคอื่น เพราะตั้งแต่ยุคอนาคตใหม่ถึงปัจจุบัน จุดยืนของพรรคไม่เคยเปลี่ยน คือ “การสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยประชาชน”
“การเมืองจะเปลี่ยนได้ ต้องมาจากพรรคที่มาจากประชาชนจริงๆ ไม่ใช่พรรคที่เกิดจากผลประโยชน์หรือข้อต่อรองทางอำนาจ”
ทั้งยังยืนยันว่า กระบวนการภายในพรรคโปร่งใสและมีประชาธิปไตยสูง ไม่มีปัญหาความขัดแย้งเรื่องผู้สมัคร เพราะทุกอย่างผ่านกระบวนการคัดเลือก และมีการถกเถียงบนพื้นฐานของเหตุผล ไม่ใช่ผลประโยชน์
พร้อมทำให้ประเทศดีขึ้น
เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่โรดแมปการยุบสภาอาจเปลี่ยนแปลงจากเหตุการณ์ต่างๆ ในประเทศ หัวหน้าพรรคประชาชนยืนยันว่า พรรคมีการประเมินสถานการณ์และเตรียมรับมือไว้แล้ว
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พรรคประชาชนพร้อม เราเชื่อว่า รัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้ ทั้ง เรื่องพระราชพิธี และ กระบวนการเลือกตั้ง เราไม่เห็นว่าทั้งสองส่วนจะต้องขัดกัน” ณัฐพงษ์ ระบุ
พรรคประชาชนภายใต้การนำของ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” กำลังส่งสัญญาณถึงทุกขั้วการเมืองว่า “พวกเขาพร้อมแล้ว” ทั้งนโยบาย ทีมบริหาร และ เจตจำนงทางการเมือง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งปี 2569 ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการเมืองไทยอีกครั้ง
“8 ปีที่ผ่านมา เราเดินด้วยอุดมการณ์ วันนี้เราเดินด้วยความพร้อม - พร้อมจะทำให้ประเทศนี้ดีขึ้นจริง ไม่ใช่แค่พูด แต่ลงมือทำ” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวทิ้งท้าย
รายงานพิเศษ โดย...ทีมข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4145