“อนุทิน”ดินเนอร์ผู้นำเอเปค ร่วมโต๊ะ“ทรัมป์” ขอสหรัฐปรับสมดุลการค้า

29 ต.ค. 2568 | 11:51 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ต.ค. 2568 | 12:03 น.

“อนุทิน”ดินเนอร์ผู้นำเอเปค ร่วมโต๊ะ “ทรัมป์-อี แช มย็อง” ถกแนวทางขับเคลื่อนอินโด-แปซิฟิก ขอบคุณสหรัฐหนุนสันติภาพไทย-กัมพูชา หวังเดินหน้าเจรจาข้อตกลงการค้าใหม่

KEY

POINTS

  • นายกฯ อนุทินเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำพิเศษกับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ณ เมืองคยองจู เกาหลีใต้ โดยได้ร่วมโต๊ะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
  • นายกฯ ได้กล่าวถ้อยแถลงในงาน โดยเรียกร้องให้สหรัฐฯ เปิดการเจรจาความตกลงการค้าไทย-สหรัฐฯ ที่มีความสมดุลและเป็นธรรม เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
  • เสนอให้สหรัฐฯ มีบทบาทร่วมอย่างแข็งขันในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก 3 ด้านหลัก ได้แก่ ความร่วมมือด้านดิจิทัล, การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และการสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน

วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เมื่อเวลา 18.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ ห้องบอลรูม ชั้น 1 โรงแรม Hilton Gyeongju เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำพิเศษในนามผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ภายใต้หัวข้อ “ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอินโด–แปซิฟิก” (Indo-Pacific Economic Cooperation)

การจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นโดยประธานาธิบดี อี แช มย็อง แห่งสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และผู้นำจากประเทศเศรษฐกิจสำคัญในภูมิภาคเอเปค ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญของการประชุมผู้นำเอเปค ครั้งที่ 32

บรรดาผู้นำที่เข้าร่วมงานเลี้ยงประกอบด้วย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ, นายอี แช มย็อง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้, นายแอนโทนี แอลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย, นายมาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา, นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์, นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และนายเลือง เกื่อง ประธานาธิบดีเวียดนาม รวมทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย

โดยก่อนเริ่มงานเลี้ยง ผู้นำทั้ง 8 ชาติ ได้พบปะพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ ก่อนร่วมรับประทานอาหารค่ำ และเข้าสู่ช่วงเสวนาในหัวข้อ “ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอินโด–แปซิฟิก”

ในโอกาสนี้ นายอนุทิน ได้กล่าวถ้อยแถลงในงาน โดยเริ่มจากการขอบคุณประธานาธิบดีอี แช มย็อง ที่ให้เกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงค่ำสุดพิเศษ และกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้อยู่ท่ามกลางพันธมิตรสำคัญในภูมิภาคอินโด–แปซิฟิก ซึ่งมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้าง “สันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่งคั่งร่วมกัน”

นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับความร่วมมือในทุกระดับ ทั้งทวิภาคี อนุภูมิภาค และระดับภูมิภาค ผ่านกรอบกลไกต่าง ๆ เช่น อาเซียน, กรอบความร่วมมือแม่โขง, และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) 

พร้อมระบุว่า ไทยกับเกาหลีใต้กำลังเสริมสร้างความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน–เกาหลีใต้ และแม่โขง–เกาหลีใต้ รวมทั้งการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม (CEPA)

                               “อนุทิน”ดินเนอร์ผู้นำเอเปค ร่วมโต๊ะ“ทรัมป์” ขอสหรัฐปรับสมดุลการค้า

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงความร่วมมือกับสหรัฐฯ และออสเตรเลีย ภายใต้กรอบ “Mekong–U.S. Partnership” และกรอบ ACMECS เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในลุ่มแม่น้ำโขง

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีต่อการเข้าร่วมงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณสำคัญของการที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญต่อภูมิภาคอินโด–แปซิฟิก และกล่าวขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนกระบวนการสร้างสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา จนนำไปสู่การลงนามใน Joint Declaration เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยหวังว่าสหรัฐฯ จะเห็นถึงความตั้งใจจริง และความพยายามของไทยในการสร้างสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค และพร้อมเปิดการหารือเพื่อเจรจาความตกลงการค้าไทย–สหรัฐฯ ที่ “สมดุลและเป็นธรรม” เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ

นายกรัฐมนตรีชี้ให้เห็นว่า ภูมิภาคอินโด–แปซิฟิกกำลังเป็นหนึ่งใน “เครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก” ด้วยพลังของประชากรที่มีศักยภาพสูงและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า พร้อมเสนอให้สหรัฐฯ มีบทบาทร่วมอย่างแข็งขันใน 3 ด้านหลัก ได้แก่

1.ความร่วมมือด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งไทยเชื่อว่าจะมีบทบาทสำคัญต่อทั้งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงปัญหาการหลอกลวงออนไลน์

2.การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้แข่งขันได้มากขึ้น ด้วยการลดกฎระเบียบที่ซ้ำซ้อน สร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม และส่งเสริมความเท่าเทียม โดยไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อยกระดับมาตรฐานทางเศรษฐกิจ

3.การสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานโลก เพื่อให้ภูมิภาคมีความสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจโลกได้ดียิ่งขึ้น

ตอนท้าย นายอนุทิน ย้ำว่า ไทยพร้อมร่วมมือกับทุกเขตเศรษฐกิจในภูมิภาค เพื่อส่งเสริมค่านิยมร่วมด้านธุรกิจ นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อ “ปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจของอินโด–แปซิฟิกให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงแก่ประชาชนในภูมิภาค”