KEY
POINTS
วันนี้ (29 ตุลาคม 2568) ที่นครปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย และนางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภริยา พร้อมด้วยคณะ ประกอบด้วย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รมว.พาณิชย์ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงเกาหลีใต้แล้ว
โดยมี นายชเว ฮย็อง-ชาน ผู้อำนวยการสถาบันการทูตแห่งชาติเกาหลี ในฐานะผู้แทนรัฐบาลเกาหลี พร้อมคณะฝ่ายเกาหลีใต้ให้การต้อนรับ โดยครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางเข้าร่วมเวทีเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางต่อไปยังเมืองคยองจู ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32
สำหรับภารกิจของนายกฯ วันนี้ เวลา 18.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคเป็นกรณีพิเศษ (Special Dinner for APEC Economic Leaders) โดยมีนายอี แช มย็อง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงฯ
ทั้งนี้ นายกฯ ได้มีโอกาสพบหารืออย่างไม่เป็นทางการกับผู้นำสำคัญจากหลากหลายเขตเศรษฐกิจ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของภูมิภาค และความร่วมมือในมิติต่าง ๆ อาทิ การค้า การลงทุน นวัตกรรม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ภายหลังงานเลี้ยงอาหารค่ำนายกฯ มีกำหนดการรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ โรงแรมที่พัก เพื่อเตรียมเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (30 ตุลาคม 2568)
สำหรับภารกิจของนายกฯ ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่
วันที่ 31 ตุลาคม 2568
การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 Session I ภายใต้หัวข้อ “Towards a More Connected, Resilient Region and Beyond” ซึ่งไทยจะส่งเสริมการค้า การลงทุน ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน และพร้อมทำงานหน้าที่เป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่างเอเปคและประเทศคู่ค้าเจรจาอื่น ๆ นอกภูมิภาค เพื่อก้าวไปสู่การเติบโตอย่างครอบคลุม มีนวัตกรรม และยั่งยืนในระยะยาว
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568
การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 Session II ภายใต้หัวข้อ “Preparing a Future–Ready Asia–Pacific” โดยไทยจะร่วมผลักดันความร่วมมือผ่านการบูรณาการทางการค้า การลงทุน ความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน สถาบัน และระหว่างประชาชน เพื่อส่งเสริมศักยภาพของเอเปคให้เตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลและ AI และสร้างการเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน
นอกจากการประชุมหลัก นายกฯ จะเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญของภาคธุรกิจ ได้แก่
การประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจของเอเปค ประจำปี 2568 (2025 APEC CEO Summit) โดยนายกฯ จะกล่าวปาฐกถาพิเศษ ภายใต้หัวข้อ “Bridge. Business. Beyond.” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การเชื่อมโยงภูมิภาค และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ให้สอดรับกับความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น
การหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC Dialogue with APEC Economic Leaders) ซึ่งมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนความมั่งคั่งร่วมกันของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความยั่งยืน นวัตกรรมดิจิทัลการเงิน และชีววิทยาและสุขภาพ
การพบหารือกับ U.S.-APEC Coalition ซึ่งเป็นสมาคมธุรกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่เป็นสมาชิกที่มีบทบาทในเอเปค
การหารือทวิภาคีกับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและผู้แทนภาคธุรกิจสำคัญ รวมถึงเข้าร่วมงานเลี้ยงแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Gala Dinner) เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับผู้นำและผู้แทนภาคเอกชนสำคัญในภูมิภาค และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยบนเวทีเศรษฐกิจโลก
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า การเข้าร่วมการประชุมเอเปคในครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะแสดงบทบาทเชิงรุกในเวทีเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ผลักดันความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ดิจิทัล และการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเติบโตอย่างสมดุลและครอบคลุม พร้อมย้ำรัฐบาลมุ่งมั่นสร้างความร่วมมือกับทุกเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปค เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนร่วมกัน