KEY
POINTS
วันที่ 10 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา พรรคประชาชน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค แถลงถึงกรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง กระบวนการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า พรรคประชาชนยืนยันเป้าหมายสำคัญในการปฏิรูปประเทศคู่ขนานกับการฟื้นเศรษฐกิจ คือ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) ระหว่าง พรรคประชาชน กับ พรรคภูมิใจไทย
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญล่าสุดชี้ชัด ต้องทำประชามติ 2 รอบ คือ
รอบแรก สอบถามประชาชนว่า เห็นด้วยหรือไม่กับการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเห็นด้วยหรือไม่กับวิธีการร่างที่บัญญัติไว้ในร่างแก้ไขหมวด 15
รอบสอง สอบถามประชาชนว่า เห็นด้วยหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่จัดทำแล้ว
พรรคประชาชนจึงเสนอให้ สส.ทุกพรรคเร่งยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15 ต่อรัฐสภาภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้สามารถทำประชามติรอบแรก ได้พร้อมกับการเลือกตั้งใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นจากการยุบสภาภายใน 4 เดือนหลัง ครม.ใหม่เข้ารับตำแหน่ง
ปัจจุบัน ส.ส.จากพรรคประชาชนและเพื่อไทย ได้ยื่นร่างแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของภูมิใจไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการตามข้อตกลง
“แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่า รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือก ส.ส.ร. โดยตรง แต่ไม่ได้ปิดประตูเสียทีเดียว รัฐสภายังสามารถออกแบบกลไกให้ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งส่งร่างต่อสภา ก่อนส่งทำประชามติได้” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ พรรคประชาชนเสนอให้รัฐสภาเปิดประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขหมวด 15 ในวาระ 1 ภายในเดือนกันยายน โดยไม่จำเป็นต้องรอการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา เพราะเป็นหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การจัดทำประชามติรอบแรกทันตามกรอบเวลา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อกังวลว่า มติรัฐสภาอาจกลายเป็นการยื่นอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญ นายณัฐพงษ์ ชี้ว่า ไม่ใช่การปิดทาง แต่คำวินิจฉัยได้เปิดโอกาสให้ประชามติรอบแรก และ รอบสอง รอบสามสามารถทำควบคู่ได้ จึงเป็นเรื่องของการออกแบบคำถามให้เหมาะสมในสภา
ต่อคำถามว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ร.โดยประชาชนอาจ “แท้ง” ตามคำวินิจฉัยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ยังไม่ปิดทางเสียทีเดียว เพราะคำวินิจฉัยออกภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ที่ยังไม่มีหมวด 15 ใหม่ ดังนั้นหน้าที่สภา คือ เร่งแก้หมวดนี้ให้เสร็จใน 4 เดือน เพื่อเปิดทางสู่กระบวนการตามที่ตกลงไว้กับประชาชน
หัวหน้าพรรคประชาชน ย้ำว่า หาก “รัฐบาลอนุทิน” ไม่เดินตามแนวทางที่ตกลง พรรคประชาชนพร้อมใช้เสียงฝ่ายค้าน 143 เสียง ล้มรัฐบาลทันที
“สิ่งนี้ไม่ใช่การต่อรองทางการเมือง แต่คือ การรักษาคำสัญญาต่อประชาชน เราไม่ได้มีสายตรงหรือดีลลับใด ๆ กับพรรคแกนนำรัฐบาล สิ่งเดียวที่ยึดถือคือเจตนารมณ์ MOA”