นายกฯ เปิดตัว “เอกนิติ-ศุภจี” 2 ขุนพลเศรษฐกิจ ยันให้อำนาจเต็ม

10 ก.ย. 2568 | 10:27 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2568 | 10:49 น.

นายกฯ อนุทิน เปิดตัว “เอกนิติ-ศุภจี” 2 ขุนพลเศรษฐกิจ ยันให้อิสระทำงาน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ “ศุภจี” ย้ำพร้อมทุ่มเทประสบการณ์เพื่อชาติ “เอกนิติ”อุบแผนคนละครึ่ง รอโปรดเกล้าฯ

KEY

POINTS

  • นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ โดยแต่งตั้ง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส เป็นรองนายกฯ และ รมว.คลัง และ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ เป็น รมว.พาณิชย์
  • นายกฯ ยืนยันว่า ทั้งสองเป็นนักบริหารมืออาชีพ ที่ถูกทาบทามมาช่วยงาน และจะมอบอำนาจเต็มในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
  • นางศุภจี และ นายเอกนิติ ตั้งใจนำประสบการณ์มาทุ่มเทเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศในระยะเวลาอันสั้น โดยเตรียมผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ "คนละครึ่ง"

วันที่ 10 กันยายน 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง  และ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รมว.พาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวหลังการพูดคุยพร้อมเปิดตัวรมว.พาณิชย์ อย่างเป็นทางการ

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ทางตน และ นายเอกนิติ ได้เชิญ นางศุภจี มาหารือกัน รวมถึงมาช่วยงานรัฐบาลในตำแหน่งรมว.พาณิชย์ ซึ่งเราได้ทำความเข้าใจกัน รวมถึงหารือเรื่องนโยบาย ภายใต้เวลาที่มีอยู่ว่าทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ และพี่น้องประชาชน

“ขอยืนยันว่า ในรัฐบาลนี้เรามีมืออาชีพอีกหนึ่งคนเข้ามาช่วยงานในด้านการพาณิชย์ อีคอมเมิร์ซ การค้าขาย การสร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งท่านจะมาปฎิบัติหน้าที่นี้ภายใต้การกำกับดูแลของ นายเอกนิติในฐานะรองนายกฯ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ”

                         นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล เปิดตัว เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ว่าที่รองนายกฯ และรมว.คลัง  และ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รมว.พาณิชย์

นายกฯ ยืนยันว่า “รัฐบาลเอาความคาดหวัง เอาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เอาประโยชน์ของสูงสุดของประเทศชาติ ไปจีบท่านขอให้ท่านได้เห็นแก่เรื่องพวกนี้ ขอให้ท่านซึ่งประสบความสำเร็จมามากมาย แล้วท่านก็มีประสบการณ์มีความสามารถในการบริหารจัดการกิจกา รและองค์กรระดับใหญ่มาแล้ว ก็ขอให้ท่านได้ช่วยเหลือบ้านเมืองร่วมกัน"

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า คิดว่า นางศุภจี ไม่ใช่นักธุรกิจ แต่เป็นนักบริหารมืออาชีพ ซึ่งท่านก็เป็นมนุษย์เงินเดือน และเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้มากพอสมควร เพราะฉะนั้นขอให้เราได้เชื่อมั่นว่า ท่านก็มีความเสียสละ ยอมทิ้งเงินเดือนรายได้ต่อเดือน ในฐานะกรรมการหลายบริษัทและยอมมาทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองก็ขอให้ให้โอกาส

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า เราจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในการบริหารราชการแผ่นดิน อำนาจเต็มอยู่ที่ผู้ปฏิบัติงาน ตนมีแต่นโยบายเป็นตัวตั้งเป้า ถามว่ามีธงหรือไม่ ธงก็คือ ประเทศไทยต้องเดินก้าวหน้าไปด้วยความมั่นคง ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ให้ได้มากที่สุด และทำให้พี่น้องประชาชนได้กลับมามีโอกาสให้มากที่สุดและมีคุณภาพชีวิตให้ดีที่สุดนั่น คือ ธงที่ตนให้”

เมื่อถามว่าการทาบทามบุคคลภายนอกมาเป็นรัฐมนตรีเกรงหรือไม่ว่า จะทำให้มีประวัติด่างพร้อย นายอนุทิน กล่าวว่า บุคคลเหล่านี้เป็นผู้ที่มีประวัติดีงาม ไม่มีประวัติด่างพร้อย และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ มีความเสียสละทุ่มเท

“เพราะฉะนั้นด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ท่านก็จะไม่ยอมมาทำอะไรที่ไม่ดีไม่งาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาดำรงตำแหน่งบริหารประเทศแล้วสำหรับผมคำว่าบริหารราชการแผ่นดิน ใครที่ได้มาทำหน้าที่นี้ถือว่านอกจากจะเป็นเกียรติยศแล้ว ก็ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญมาก ที่เรามีประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้ที่จะรับทั้งประโยชน์และโอกาส หรือแม้ แต่ความเดือดร้อน เมื่อเราทำผิด แต่เราต้องมั่นใจว่า เราต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและทำงานกันเป็นทีม”

                              นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล เปิดตัว เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ว่าที่รองนายกฯ และรมว.คลัง  และ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รมว.พาณิชย์

ด้าน นางศุภจี เปิดใจว่า มีความตั้งใจที่ท่านนายกฯ ได้พูดไปแล้วระยะเวลาสั้นๆ นี้เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย มีความสำคัญมากประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะสั้นแค่ไหน 

“ในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศมาด้วยเช่นกัน ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมดมาทุ่มเทในระยะเวลาสั้นๆ นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

นางศุภจี กล่าวอีกว่า จะประสานความร่วมมือทุกท่านภายใต้นโยบายของนายกฯ และรองนายกฯ ในการทำเรื่องเศรษฐกิจให้กลับมาให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

“ถือเป็นความท้าทาย แต่เราก็มีความมั่นใจว่าสามารถทำได้ แม้จะทำไม่ได้ทุกอย่าง แต่เราจะเลือกสิ่งที่เกิดผลกระทบอย่างดีที่สุดหลังจากนี้รัฐมนตรีทุกคนคงต้องนำนโยบายหลักภายใต้การนำของท่านนายกฯ ไปปฏิบัติ โดยเรามีหน้าที่ ที่จะเสริมด้วยจุดประสงค์เดียวกันเพื่อผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก"

ส่วน นายเอกนิติ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมปัดฝุ่นนโยบายโครงการ “คนละครึ่ง” ว่า ด้วยประสบการณ์การทำหน้าที่ในกระทรวงการคลัง ซึ่งรู้กลไกขับเคลื่อนอยู่แล้ว เรื่องนี้ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องต่างๆ ไว้แล้ว ส่วนรายละเอียดขอให้รอโปรดเกล้าฯ ก่อนซึ่งเป็นนโยบายของท่านนายกฯ ที่มอบให้ตนว่าทำอย่างไรให้คิดถึงผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก

“แม้มีเวลาจำกัด แต่เราต้องสามารถที่จะฟื้นเศรษฐกิจของประเทศได้ รวมถึงคำนึงถึงระยะยาว ให้ทำสั้นและคู่กับยาวไปด้วยเป็นหลักที่ท่านนายกฯ มอบให้ กำลังทำการบ้านกันอยู่”

นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย ถึงรายชื่อครม.อนุทิน1 ว่า ขณะนี้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้รับรายชื่อหมดแล้ว และได้ส่งกลับมาบางคน so far so good 

“เมื่อทุกอย่างส่งมาเรียบร้อยแล้ว ผมจะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปให้มีความเห็นตรงกันอีกครั้ง ข้อมูลทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ น่าจะครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว และจะเร่งนำขึ้นทูลเกล้าฯ กราบบังคมทูลเพื่อส่งพระกรุณาต่อไป” นายกฯ ระบุ

ส่วนรัฐมนตรีที่มีปัญหา ยืนยันว่า ถ้ามีปัญหาก็เป็นไม่ได้ ขณะนี้ยังไม่มีรายชื่อที่ถูกตีกลับ เพราะหลังจากนี้เลขาฯ สำนักนายกฯ ก็ต้องรวบรวม และสรุปให้ตนทราบอีกครั้ง โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด