เปิดโผครม.‘อนุทิน1’ดึงมืออาชีพทีมเศรษฐกิจ ร่วมฟื้นเชื่อมั่น

10 ก.ย. 2568 | 11:28 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2568 | 11:28 น.

 รัฐบาล ‘อนุทิน 1’ ดึงคนนอกร่วมครม.อื้อ เสริมทีมเศรษฐกิจ เร่งฟื้นความเชื่อมั่น แก้ไขปัญหาก่อนทรุดหนัก เอกชนหนุนนำมืออาชีพจากภายนอกร่วมทีม หวังช่วยแก้ปัญหาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

หลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ก็เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลทันที ด้วยการทาบทามบุคคลต่างๆที่จะเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อเดินหน้าบริหารประเทศ โดยการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย รวมทั้งหมด 146 เสียง 

สำหรับรายชื่อที่ถูกจับตาคือ การทาบทามบุคคลภายนอกเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วถึง 8 คนคือ

  • นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
  • นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีต CEO ปตท.เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
  • นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
  • นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย
  • นายวรภัค ธันยาวงศ์ อดีต CEO ธนาคาร กรุงไทยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
  • นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ CEO ดุสิตธานี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
  • พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
  • พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ส่วนโควตาพรรคการเมืองต่างๆนอกจากพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว ยังอยู่ระหว่างการจัดสรรตำแหน่ง ซึ่งยังไม่ลงตัว เพราะมีหลายรายชื่อที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ 

การให้โควตาคนนอกจำนวนมากเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในครั้งนี้ ได้รับการชื่นชมจากนักวิชาการหลายคน ที่สะท้อนถึงความใจกว้างของนายอนุทิน ที่ได้เสียสละโควต้ารัฐมนตรีของพรรคตัวเองมาให้คนนอกหลายตำแหน่ง เป็นการสรรหารัฐมนตรีน้ำดีจากนอกพรรค มาช่วยบริหารประเทศ ซึ่งสำคัญยิ่งในภาวะที่ประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว 

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทยให้ความเห็นถึงโผคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจว่า  เท่าที่ติดตามรายชื่อในรอบนี้ถือว่าหน้าตาดูดีและใช้ได้ โดยดึงคนนอกเข้ามาร่วมทีม มองเป็นเชิงบวกเพราะไม่เอาการเมืองมานำในการแต่งตั้งมากเกินไปเหมือนในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และสร้างเชื่อมั่นได้ระดับหนึ่ง 

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย  

สำหรับนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ผู้บริหารกลุ่มดุสิตธานีที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ผ่านมาก็ได้มาช่วยดูแลงานของหอการค้าไทยทางด้านการค้ามาโดยตลอด เป็นหนึ่งในบุคคลที่หอการค้าฯให้ความเชื่อถือ  

ส่วนนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคยเป็นอธิบดีในหลายกรมของกระทรวงการคลัง ได้เห็นภาพกว้างของเศรษฐกิจไทย และที่สำคัญยังรู้กลไกการขับเคลื่อนในเชิงการเมืองและระบบราชการ คาดหวังจะตัดสินใจในเรื่องการเงิน-การคลัง ของประเทศได้เร็วเพราะรัฐบาลมีอายุการทำงานเพียง 4 เดือนหลังแถลงนโยบาย  

ขณะที่นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท.จำกัด (มหาชน)ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงพลังงาน มาจากสายตรงด้านพลังงานอยู่แล้ว มีความรู้และประสบการณ์ด้านพลังงานเป็นอย่างดี

ที่สำคัญจะรู้วิธีว่าจะทำอย่างไรให้ต้นทุนด้านพลังงานของไทยลดลง รวมถึงรู้เรื่องของความยั่งยืนของพลังงานไทยในอนาคต ซึ่งต้องรอดูว่า รมว.พลังงานจะมีแผนระยะกลาง และระยะยาวเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของพลังงานไทยอย่างไร 

ส่วนนายอรรถกร ศิริลัทธยากร จากรัฐมนตรีเกษตรฯในรัฐบาล “แพทองธาร”ที่จะโยกมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถือเป็นคนหนุ่มไฟแรง มีความสดใหม่ น่าจะมีความรู้ความเข้าใจพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่า ซึ่งต้องให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง 

นายธนกร วังบุญคงชนะ ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีความคาดหวังที่จะเข้ามาดูแลและปรับโครงสร้างภาคอุตสาหกรรม และดูแลเรื่องระบบนิเวศ (ecosystem) ของภาคอุตสาหกรรมให้มีความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น ในต้นทุนที่ลดลง และเดินหน้าในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นในการดึงการลงทุนจากต่างประเทศ 

อย่างไรก็ดีสิ่งที่อยากฝากรัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ไขปัญหาในเวลานี้คือ

  • การเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชน
  • การแก้ไขเงินบาทที่แข็งค่ามากในรอบ 4 ปี ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวของไทยอย่างมากในเวลานี้
  • การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้สินของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษของสหรัฐ
  • สินค้าต่างประเทศเข้ามาแย่งตลาด
  • รวมถึงขอให้กำกับดูแลในการลดดอกเบี้ยนโยบาย และดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ลงอีก เพื่อให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนทางการเงินที่ถูกลง และมีสภาพคล่องมากขึ้น

ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมืองระบุว่า การแต่งตั้งบุคคลภายนอกที่มีประสบการณ์เข้ามาบริหารถือเป็นเรื่องที่ใช้ได้ แต่ยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด เพราะความท้าทายที่แท้จริงคือการบริหารจัดการภายในรัฐบาลผสม ที่แต่ละกระทรวงจะต้องทำงานไปในทิศทางเดียวกันและมีเอกภาพ

ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการคลังที่เผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณ และ ต้องทำงานภายใต้วงเงินที่จำกัดเพียง 20,000 ล้านบาท ซึ่งไม่มากพอจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ทันที  

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีเวลาทำงานเพียง 4-5 เดือนก่อนการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สั้นมากสำหรับการทำนโยบายเชิงโครงสร้าง แต่ก็เป็นโอกาสดีที่ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการเมือง  

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า โฉมหน้าครม.เป็นความพยายามในการสร้างความสมดุลระหว่างการเมืองและความคาดหวังของประชาชนจากการเชิญคนนอกที่เป็นมืออาชีพในแต่ละด้านมาผสมผสานกับโควต้าตัวแทนพรรคการเมืองถือว่าเป็นภาพลักษณ์ที่สร้างความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่ง จากการมีโควต้าคนนอกมานั่งบริหารกระทรวงเศรษฐกิจหลักที่มีความพร้อมในการทำงานได้ทันที

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า)

ซึ่งการเชิญคนนอกมืออาชีพใช้ตรงกับงานก็เสมือนมีวัตถุดิบได้เชพเก่งมาปรุงแต่งย่อมทำให้คนคาดหวังรออาหารจานอร่อยจากเชพมือดีนั่นเอง 

“การเริ่มต้นของ รัฐบาลอนุทิน ถือว่า ทำได้ดีระดับหนึ่งในการดูแลความคาดหวังของสังคมกับการสร้างความสมดุลในการด้านความคาดหวังทางการเมือง แต่ผลจากทำงานของรัฐบาลจะเป็นตัวชี้วัดที่แท้จริง” 

นายกิตติ พรศิวะกิจ นายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทยกล่าวว่า ครม.ชุดใหม่ ในส่วนของคนนอกถือว่าครบเครื่อง ตอบโจทย์ภาคเอกชน ที่ได้คนเก่ง คนดี มีประสบการณ์ตรงกับกระทรวงที่รับผิดชอบทุกท่าน ทั้งด้านการคลัง การต่างประเทศ เศรษฐกิจ กฏหมาย ความมั่นคง เกรด A ทุกท่าน

อย่างไรก็ตาม คนท่องเที่ยวฝากขอมาว่าหากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้รัฐมนตรีที่มีประสบการณ์ตรงแบบนีบ้างน่าจะสามารถแก้วิกฤตท่องเที่ยวในช่วงนี้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรกล่าวกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า สนับสนุนอย่างยิ่งที่รัฐบาลนำมืออาชีพคนนอกมาเสริมทีมเศรษฐกิจและการต่างประเทศ ทุกท่านที่คัดมาเป็นไปตามสเปค มีผลงานและประวัติดี ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน

นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร

แต่สิ่งที่ควรเพิ่มคือต้องระวังอย่าให้เกิดนโยบายประชานิยม ต้องรักษาวินัยการคลัง ทีมเศรษฐกิจต้องกล้าบอกว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้นายกฯต้องให้อำนาจตัดสินใจจริง ไม่ใช่มาประดับคณะรัฐมนตรี(ครม.)  

นายวรัทภพ แพทยานันท์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร มองว่า ทีมเศรษฐกิจคนนอกภายใต้รัฐบาลภูมิใจไทย มองว่ามีความรู้ความสามารถที่ดีที่เอกชนยอมรับ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่สามารถเข้ากับ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ได้ 

นายวรัทภพ แพทยานันท์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร

รวมถึงนายกรัฐมนตรีอย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล มองว่า เข้าใจภาคเอกชนเนื่องจากทำธุรกิจภาคก่อสร้างเช่นกันซึ่งได้รับผลกระทบไม่ต่างจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าจะมีระยะเวลาบริหารประเทศเพียง 4 เดือนในทางกลับกัน ประเมินว่าเป็นลักษณะการวางแผนนำไปสู่การเลือกตั้งในครั้งหน้า ที่นักธุรกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประชาชนเชื่อมั่น โดยเฉพาะ นโยบายคนละครึ่ง