KEY
POINTS
นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนาและอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ชี้ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับจำนวนครั้ง การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็น 3 ครั้ง ทำให้ชัดเจนว่า ประชาชนต้องตอบประชามติก่อนจึงจะสามารถจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้
ดังนั้น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยู่ในระเบียบของรัฐสภาขณะนี้ ไม่สามารถพิจารณาได้ และถือว่าร่างดังกล่าวต้องตกไป หรือเจ้าของร่างต้องถอนเนื้อหาที่ขัดคำวินิจฉัยออก
นอกจากนี้ นายนิกร ย้ำว่า รัฐสภามีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ ไม่สามารถให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงได้ เพราะจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 166
สำหรับประเด็นการกำหนดคำถามประชามติ เคยมีความเห็นเสนอให้ ครม. สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เห็นชอบว่า คำถามประชามติไม่สามารถตั้งเพื่อให้มี สสร.มาจากการเลือกตั้งตรงได้ เพราะจะขัดรัฐธรรมนูญ แต่หากฝ่าฝืนอาจถือเป็นการกระทำที่ผิดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง
“ตามข้อตกลงทางการเมืองระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับ พรรคประชาชน (MOA) ที่กำหนดให้ผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมี สสร. ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่สามารถตั้งคำถามประชามติในแนวนี้ได้ เพราะขัดรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยของศาล”
นายนิกร เสนอว่า สามารถมี สสร.ได้ แต่ต้องมาจากการเลือกตั้งแบบอ้อม เช่นเดียวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญปี 2540 คือ ประชาชนเลือกจำนวนหนึ่งก่อน จากนั้นรัฐสภาคัดเลือกเพิ่มเติม
นายนิกร ยังระบุว่า คำถามประชามติที่เคยเสนอควร ยกเว้นไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2 เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการเมือง ที่กระทบการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน
ทั้งนี้ กฎหมายประชามติฉบับแก้ไขยังไม่บังคับใช้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประสานงานกับ กกต. เพื่อเตรียมความพร้อมออกกฎหมายลำดับรอง และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต้องเตรียมงบประมาณสำหรับการจัดประชามติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอุปสรรคขัดข้อง