วันนี้( 23 พ.ค. 68) เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ที่มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและสิทธิเลือกตั้งของ นายขวัญชัย บุญเพ็ชร ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ระดับจังหวัด จ.สมุทรปราการ กลุ่มที่ 15 ผู้สูงอายุ คนพิการ ชาติพันธุ์ หมายเลข 2
นายมงคล ลีลาเลอเกียรติ ผู้มีสิทธิ์เลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับอำเภอ อำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ กลุ่มที่ 15 หมายเลข 18 และ นายนิธิพล บุญเพ็ชร ผู้ซึ่งไม่ใช่ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62 และรัฐธรรมนูญ มาตรา 226 พร้อมดำเนินคดีอาญาบุคคลทั้งสาม ตามมาตรา 77 (1) พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561
เนื่องจากข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า วันที่ 13 มิ.ย. 2567 บุคคลทั้งสามและพยาน เดินทางไปที่ร้านครัวคุณนออาหารไทย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการจริง และพยานให้ถ้อยคำสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่ปรากฏบทสนทนาตามคลิปบันทึกเสียง ซึ่งมีการถอดข้อความ โดยพยานที่เป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรปราการว่า เป็นการสนทนากันระหว่างนายมงคล นายนิธิพล และพยานอีก 2 คน เกี่ยวกับการเลือก สว.ระดับจังหวัด และ ระดับประเทศ การขอและแลกเปลี่ยนคะแนนรวมถึงการเสนอผลประโยชน์ให้แก่กัน
โดย นายมงคล กล่าวถ้อยคำว่า “ตอนนี้ผมพูดตรง ๆ เลยนะว่าสองนะไม่มี รู้มั้ยทำไมผมถึงพูดคำนี้ เพราะตอนนี้ก็เหมือนอย่างเรา ผมก็หากลุ่ม หากลุ่ม ๆ เรามาจอยกัน แล้วก็ดูวัตถุประสงค์ของแต่ละคน ว่าเป็นยังไงบ้าง อ่ะ อยากได้แต้มใช่มั้ยครับ ผมมีตัวแลกนะ ถ้ายอมถอย ผมมี หรือถ้าอยากได้ตำแหน่งผมมีตำแหน่งให้ ถ้าผมได้เข้าไป"
และ "ผมไม่ได้มองว่าคุณต้องมาช่วยผมร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับ แต่ผมมองว่า เรารู้จักกันวันนี้เพื่อผลประโยชน์ในวันข้างหน้า ที่มันจะลงตัว คุณกับเราต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันแล้วแลกเปลี่ยนกัน หรือว่า คุณพอใจส่วนไหน เราจัดให้ได้ ถ้าคุณช่วยผลักดันเรา”
และ นายนิธิพล กล่าวถ้อยคำว่า “คือ.. (ชื่อพยาน).. ต้องเข้าใจผมอย่างหนึ่งว่า ผมเนี่ยลงมาช่วยคุณพ่อ” รวมถึงข้อความอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่ นายนิธิพล เข้ามาช่วยเจรจากับพยาน เพื่อขอให้ลงคะแนนให้แก่ นายขวัญชัย ซึ่งมีลักษณะเป็นการเสนอให้ผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่พยานเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่นายขวัญชัย
ประกอบกับเมื่อตรวจสอบการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของ นายมงคล ระหว่างวันที่ 1พ.ค. 2567 – 30 มิ.ย. 2567 พบว่า นายมงคล โทรศัพท์ติดต่อกับนายขวัญชัย จำนวน 34 ครั้ง และ นายมงคล โทรศัพท์ติดต่อกับนายนิธิพล จำนวน 23 ครั้ง จึงน่าเชื่อว่า นายขวัญชัย ก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำดังกล่าวของ นายมงคล และ นายนิธิพล ซึ่งเป็นบุตรของตนด้วย
กรณีจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า บุคคลทั้งสามกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาตรา 77 (3) ซึ่งเป็นการทุจริตในการเลือก อันเป็นเหตุให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริต หรือ เที่ยงธรรม ตามมาตรา 62 ของกฎหมายเดียวกัน
คลิกอ่านคำวินิจฉัยคณะกรรมการการเลือกตั้งเพิ่มเติม