พิธา มั่นใจ บรรทัดฐานศาลรัฐธรรมนูญ คดีหุ้นไอทีวี

24 ม.ค. 2567 | 06:32 น.

พิธา มั่นใจ บรรทัดฐานศาลรัฐธรรมนูญ ยัน บริสุทธิ์ คดีหุ้นไอทีวี เตรียมรับผลคำวินิจฉัยทั้งบวก-ลบ เตรียมแถลงใหญ่โรดแมปการเมืองตลอดปี-เป็นนักการเมืองรับใช้ประชาชนตลอดไป

วันนี้ (24 มกราคม 2567) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งอยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะผู้ถูกร้อง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคดีถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ว่า มั่นใจในข้อเท็จจริง และความบริสุทธิ์ และมีการเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อย ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร มีเตรียมตาราง แผนดำเนินงานของพรรคก้าวไกล และตนตลอดทั้งปีแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เสาร์อาทิตย์นี้ลงพื้นที่เหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าถามว่า นิยามคำว่าสื่อมั่นใจมากน้อยแค่ไหน ในความหมายศาลจะให้ในวันนี้ นายพิธา กล่าวว่า มั่นใจในมาตรฐานของคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ถ้าใครได้ดูรายละเอียดคงเห็นว่า การที่จะเป็นสื่อมวลชน ต้องมีใบประกอบกิจการ มีข้อแม้อย่างไรบ้าง และได้นำข้อเท็จจริงนี้ไปสู้ในศาล 

“ไม่ว่าจะข้อเท็จจริงในอดีต หรือปัจจุบัน เรื่องในอนาคตก็อย่างที่บอกว่า ยังไงก็ทำงานรับใช้ประชาชน เป็นนักการเมือง มีแผนตลอดทั้งปีแล้ว คงมีการที่ได้รับมอบหมายจากนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคว่า โรดแมปของพรรคก้าวไกลในการทำงานปีที่จะถึงนี้มีแผนรองรับเรียบร้อย ประชาชนไม่ต้องกังวล ซึ่งจะมีการแถลงแผนการดำเนินการของพรรคก้าวไกล”นายพิธากล่าว

นายพิธากล่าวว่า ขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคทั้งหลาย คนที่ทำงาน คนที่คอยให้กำลังใจในการต่อสู้มาถึงทุกวันนี้ และขอขอบคุณทีมกฎหมายของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะ เพราะทำงานอย่างหนักมาโดยตลอดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายก่อนปีใหม่ก็ยังคงทำงานปิดคดีอยู่ ผมยังมั่นใจในข้อเท็จจริงและความบริสุทธิ์

เมื่อถามว่า เตรียมความพร้อมรับผลทางบวกและทางลบอย่างไรบ้าง นายพิธากล่าวว่า  เรามีเตรียมตารางและแผนดำเนินงานของพรรคก้าวไกลและของตนเองตลอดทั้งปีแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นคุณหรือเป็นโทษก็ทำงานเพื่อประชาชนต่อไป ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน เสาอาทิตย์ก็จะลงพื้นที่เหมือนเดิม มีแผนเรียบร้อยแล้ว 

“มั่นใจว่า บรรทัดฐานของคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง หรือศาลปกครองสูงสุด การจะเป็นสื่อมวลชนต้องมีใบประกอบกิจการ ซึ่งตนได้นำข้อเท็จจริงเหล่านี้สู้ในชั้นศาลไปแล้ว ไม่สามารถลงรายละเอียดไปกว่านี้ได้”นายพิธากล่าว

นายพิธากล่าววว่า ส่วนจะเข้าสภาเมื่อไหร่อย่างไร คงต้องหารือกับประธานสภาอีกครั้ง เพื่อดำเนินการเรื่องเอกสารระหว่างศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

“ถึงอย่างไรก็ยังเป็นนักการเมืองรับใช้พี่น้องประชาชนเหมือนเดิม มีแผนตามโรดแมปของพรรคก้าวไกลในปีนี้ รองรับเรียบร้อยแล้ว กราบขอบพระคุณทุกกำลังใจพรรคก้าวไกลเสมอมา ไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”นายพิธากล่าว