“บิ๊กตู่”ไปต่อ! ทิ้งพปชร.-ปั้นพรรคใหม่ “รวมไทยสร้างชาติ”

คงไม่ต้องรอให้ถึงหลังการประชุม “ผู้นำเอเปค” ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะจบลงวันที่ 19 พ.ย.2565 ถึงจะรู้ “อนาคตทางการเมือง” ของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะไปต่อหรือไม่

เพราะการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 289/2565 แต่งตั้ง ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยระบุถึงการทำหน้าที่ว่า ให้คำปรึกษา และพิจารณาเสนอความเห็น หรือข้อเสนอแนะต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย  

พร้อมทั้งระบุให้ส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินงานของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้รับการร้องขอ และให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาฯ ...โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.2565 เป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลด้วยว่า อีกภารกิจที่ พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายงานให้ ดร.ไตรรงค์ รับผิดชอบ คือ นโยบาย และการปราศรัย

จึงทำให้วิเคราะห์ได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจแล้ว ที่จะ “ไปต่อ” ในทางการเมือง แม้จะเหลือระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้อีกแค่ 2 ปี ก็ตาม

เพราะการการขยับตั้ง ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งลาออกจากทำตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปลายเดือน ต.ค.2565 ที่ผ่านมา หลังจากร่วมงานการเมืองในพรรคเก่าแก่มายาวนานถึง 38 ปี ย่อมทำให้มองได้ว่า เป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ “สนามเลือกตั้ง” 

โดยทั้งคู่ต่างก็ถูกคาดหมายว่า จะเปิดตัวร่วมงาน “พรรครวมไทยสร้างชาติ” เร็วๆ นี้ ซึ่งมีรายงานว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะส่งเทียบเชิญ พล.อ.ประยุทธ์  ในวันที่ 21 พ.ย.นี้

สำหรับ ดร.ไตรรงค์ ภายหลังลาออกจากการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2565 ที่ผ่าน ก็ได้เผยถึงอนาคตทางการเมืองว่า “ยังมีพรรคการเมืองอื่น ๆ อีกหลายพรรคที่มีจุดยืนด้านอุดมการณ์ที่ตรงกับใจของผม ที่ผมอยากสนับสนุนโดยเฉพาะมีอยู่หลายพรรค ที่เกิดใหม่จากคนที่ต้องออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถจะบอกใครได้ (เพราะเกรงใจกัน) แต่เมื่อไปตั้งพรรคใหม่ขึ้นมา ก็ได้มีการประกาศจุดยืนแห่งอุดมการณ์ พร้อมมีนโยบายปฏิรูปหลายประการ เหล่านี้ทำให้ผมเห็นด้วยและอยากสนับสนุน” 

พรรคที่ ดร.ไตรรงค์ จะสนับสนุนก็คือ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ อดีตคนเก่าแก่ของพรรคประชาธิปัตย์ เช่นเดียวกัน 

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีแนวโน้มไปร่วมงานการเมืองกับพรรคร่วมไทยสร้างชาติ เป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรคร่วมไทยสร้างชาติ นั่นหมายความว่าจะต้องแยกทางเดินการเมือง กับ พี่ใหญ่บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 

แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นแผน “แยกกันเดิน ร่วมกันตี” หรือไม่ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวตอนหนึ่งต่อที่ประชุม ครม. ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 8 พ.ย.2565 ที่ผ่านมาว่า “กับพี่ป้อมก็ไม่มีอะไร ไม่เครียด ไม่ทะเลาะกันอยู่แล้ว ความเป็นพี่น้องมันเลิกไม่ได้ เรื่องอื่นก็ว่ากันไป”

อดใจรอ...หลังประชุมเอเปค ได้รู้กันแน่สำหรับอนาคตทางการเมืองของ “พล.อ.ประยุทธ์” 

+++++++

เส้นทางพรรครวมไทยสร้างชาติ

พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคการเมืองไทยที่จดทะเบียนก่อตั้งเป็นลำดับที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 โดยมี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นผู้ก่อตั้งพรรค มีว่าที่ร้อยโท ไกรภพ นครชัยกุล และ นางวาสนา คำประเทือง เป็นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคนแรก มีที่ทำการพรรคแห่งแรกอยู่ที่ 169/98 อาคารเสริมทรัพย์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

ต่อมา พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันที่ 31 มีนาคม  2565 ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคชุดใหม่ และเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค

โดยที่ประชุมได้มีมติเลือก นายธัญย์ธรณ์เทพ แย้มอุทัย และ นายธนดี หงษ์รัตนอุทัย เป็นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคนใหม่ มี นายปรพล อดิเรกสาร นายสิทธิศักดิ์ พัฒนชัย และ ว่าที่ร้อยโทไกรภพ นครชัยกุล เป็นกรรมการบริหารพรรค

จากนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ที่สโมสรราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์ค ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค เปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์พรรค เปลี่ยนแปลงสำนักงานใหญ่ของพรรค และเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 

โดยที่ประชุมพรรคมีมติเลือก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เลือก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ และเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งได้แก่ นายวิทยา แก้วภราดัย, นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง, นายชื่นชอบ คงอุดม, นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร และ นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ โดยมี นายเกรียงยศ สุดลาภา เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เป็นเหรัญญิกพรรค

                                  
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคว่า หลังจากการประชุมเอเปคเชื่อว่าคงมีความชัดเจนเหมือนที่นายกฯ พูด

"ผมไม่เคยปฏิเสธใครที่คิดว่าแนวทางของพรรคกับของคนๆ นั้นตรงกัน โดยเฉพาะหากนายกฯ มีความสนใจอย่างที่ว่าจริง ผมก็ไม่เห็นว่ามีอะไรที่จะเป็นข้อขัดข้อง" 

เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรค จะเป็นคนพูดคุยกับนายกฯ เองหรือไม่ ในการทาบทาม นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า "ทั้งหมดนี้คงต้องรอหลังการประชุมเอเปค ตอนนี้นายกฯ คงเป็นห่วงเรื่องการประชุมเอเปคมากกว่า คงไม่ใช่เวลาที่ผมจะไปสอบถามนายกฯ ในเรื่องนี้" 

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า มั่นใจในศักยภาพของพรรคว่า จะสามารถปักธงได้ในพื้นที่ต่างๆ ที่เรากำหนดไว้ และมั่นใจว่าจะได้เกิน 25 เสียงแน่นอน ที่ผ่านมา ตนเน้นหาคนที่มีศักยภาพมาร่วมงาน ที่จะมาเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรค

ส่วนจะมีคนเด่นดังเข้ามาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวรอดูก็แล้วกัน” 

เมื่อถามย้ำว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาร่วมงาน ตำแหน่งใดที่จะเหมาะสมกับท่าน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะวันนี้ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ อะไรที่ยังไม่เกิดขึ้น ก็ไม่รู้จะคิดไปทำไม และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังไม่ได้มาเขียนใบสมัคร

เมื่อถามว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ มา จำเป็นต้องเขียนใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคก่อนหรือไม่ หรือสามารถมาเพื่อมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีได้เลย นายพีระพันธุ์ ตอบว่า  “แล้วแต่ท่าน ยังไม่ได้คิด ยังไม่ถึงเวลา ยังไม่ได้พูดคุยกันเลย การให้การสนับสนุนพรรคการเมือง ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรคเสมอไป”