"สุชัชวีร์"ชูนายช่างแท้แก้ตรงจุด"เปลี่ยนกรุงเทพฯ"ด้วยความรู้เทคโนโลยี 

09 เม.ย. 2565 | 14:17 น.

"สุชัชวีร์"ย้ำบริหารกรุงเทพฯต้องไม่หว่านแห ชูนายช่างของแท้ ขออาสาเปลี่ยนกรุงเทพฯ สู่เมืองสวัสดิการทันสมัย ต้นแบบแห่งอาเซียน ที่ทำได้จริงด้วยเทคโนโลยี บนพื้นฐานความรู้ 

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. หมายเลข  4 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์  แถลงนนโยบายและตอบข้อซักถาม ในเวที“เปิดฉาก.. ศึกชิงผู้ว่าฯ กทม. 65” จัดโดยเนชั่น กรุ๊ป ว่า  วาระผู้ว่าฯกทม.สมัยละ 4 ปีไม่ยาว ถ้ามีนโยบายเยอะแยะไปหมด กลายเป็นทำแต่งานประจำวันอย่างนั้นก็ไม่ไหว

 

"จะเป็นผู้บริหารต้องโฟกัส มุ่งทำในเรื่องที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น การมาอาสาเสนอตัวให้คนกรุงเทพฯเลือกไปเป็นผู้ว่าฯ เพราะต้องการเปลี่ยนกรุงเทพฯให้เป็นเมืองสวัสดิการทันสมัยต้นแบบแห่งอาเซียน" 

นายสุชัชวีร์ ขยายความต่อไปว่า ทั้งนี้สวัสดิการ ไม่ใช่การให้ของถูกของฟรีแล้วไม่มีคุณภาพ แต่ต้องเป็นสวัสดิการเพื่อที่จะให้คนกรุงเทพฯสามารถยืนขึ้นมาได้ด้วยตนเอง เพื่อมาร่วมสร้างกรุงเทพฯให้ดียิ่งขึ้น เป็นเมืองที่ทันสมัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีในโลกที่มีมาแก้ปัญหาของเมืองอย่างมีความรู้ เพื่อให้เป็นต้นแบบของอาเซียน ที่จะไปใช้แก้ปัญหาเมืองอื่น ๆ ต่อไป

 

ทั้งนี้ การจะเปลี่ยนชีวิตคนกรุงเทพฯให้ดีขึ้นนั้นมีหลากหลายด้าน อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจที่เวลานี้คนได้รับผลกระทบเยอะมาก ต้องรีบจัดสรรงบประมาณดูแลชุมชนต่าง ๆ กว่า 2,000 แห่งทั่วกทม. ให้คนมีช่องทางและโอกาสกลับมาทำงานมีอาชีพสร้างรายได้ ด้านสุขภาพ สาธารณสุขของกทม. อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ต้องมีหมอเฉพาะทางมาดูแลประชาชน และต้องเติมเครื่องมือแพทย์ให้หมอทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยเวลานี้เครื่องมือแพทย์ไทยทำไทยใช้ไทยรอด ซึ่งทำได้และได้ทำมาแล้ว

การศึกษา ต้องให้กทม.เป็นเมืองการศึกษาใกล้บ้าน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนกรุง แก้ปัญหาจราจรเบ็ดเสร็จ ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ทำได้ เช่นเดียวกับปัญหาน้ำท่วม เรื่องน้ำทะเลหนุนจะเป็นปัญหาใหญ่ของกรุงเทพฯในอีก 10 ปีข้างหน้า หากไม่แก้ไขจะไม่มีแผ่นดินกรุงเทพฯแล้ว รวมถึงปัญหาฝุ่นจิ๋ว PM2.5 

 

นายสุชัชวีร์กล่าวอีกว่า สิ่งที่คนกรุงเทพฯจะเห็นใน 1 เดือนหากตนได้รับการลงคะแนนให้เป็นผู้ว่าฯกทม. คือ ผู้ว่าฯสุชัชวีร์ที่โดดลงสู้กับโควิด-19 อย่างสุด ๆ ไม่ใช่เรื่องกันคนติดหรือรักษาคนป่วย แต่คือเร่งฟื้นเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด  ให้คนมีอาชีพมีรายได้ นักท่องเที่ยวกลับคืนมา ทำให้หมอ-พยาบาลได้ดูแลคนป่วยอื่น ๆ ได้มากขึ้น และสามารถใช้งบฯไปในการแก้ปัญหาอื่น ๆ ได้มากขึ้น จากเดิมที่ต้องทุ่มกับเรื่องโควิด-19

 

 "เรามีเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการเมืองให้มีสวัสดิภาพสวัสดิการที่ดีขึ้น เช่น ติดตั้ง WIFI  150,000 จุดทั่วกทม. เนื่องจากอินเตอร์เนตเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ทุกคนควรเข้าถึงอย่างน้อยขั้นต่ำ เพื่อความเท่าเทียมทางเทคโนโลยี และยังช่วยสร้างควาปลอดภัย และบริหารจัดการปัญหาพื้นที่ เช่น มีกล้องซีซีทีวีระบบไวไฟ เพื่อใช้สอดส่องดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนให้คนกรุง ใช้เฝ้าระวังน้ำเพื่อให้ควบคุมแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องรอคนถือกุญแจมาเปิดปั๊มน้ำอยู่อีก"

 

นายสุชัชวีร์กล่าวต่อว่า ระบบกล้องซีซีทีวี ยังสามารถใช้ตรวจตราเพื่อบังคับใช้กฎหมายจราจร เช่น ตรวจคนขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนศรหรือขึ้นบนทางเท้า มีหลักฐานเพื่อบังคับใช้กฎหมาย สร้างระเบียบในสังคม ทำให้คนกรุงมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

 

"ตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ไม่ใช่ว่าใครก็เป็นได้ แต่เป็นตำแหน่งที่ต้องการคนที่เป็นผู้นำ มีความมุ่งมั่น ในการที่จะเปลี่ยนเมืองสู่จุดหมายที่พึงประสงค์  คือเมืองสวัสดิการทันสมัยต้นแบบแห่งอาเซียน มีเป้าหมายชัดเจน บริหารด้วยความรู้ เพื่อแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีวิศวกรรม ซึ่งผมมีความพร้อม"

 

งานผู้ว่าฯมีทั้งภารกิจปะผุ หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าใช้คนรู้ไม่ถ่องแท้ แก้ไม่ตรงจุด ก็ไม่ได้ผล "ผมเป็นช่างของแท้ แก้ได้ตรงจุด และมีความรู้และเทคโนโลยีที่จะแก้ ต่อไปงานกทม.ต้องมีข้อกำหนดมาตรฐานงานที่ดี  อาทิ ทางเท้า ถนนหนทาง สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ "

 

นายสุชัชวีร์ กล่าวอีกว่า ในโลกนี้มีหลายเมืองที่ประสบปัญหาหนัก และสามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งกรุงเทพฯต้องไม่ตกขบวน ในการนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงแก้การคอรัปชั่นได้ด้วย 

 

นอกจากนี้แล้วการแก้ปัญหาเมืองกรุง ผู้ว่าฯทำเองฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องได้รับความเห็นชอบและแรงสนับสนุนจากสภากทม. ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ส่งสก.ครบทุกเขต เพื่อให้ผู้ว่าฯและสภากทม. ทำงานร่วมกันให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

 

ส่วนคำถามเรื่องนโยบายต่อกรุงเทพธนาคมนั้น นายสุชัชวีร์กล่าวว่า กทม.ตั้งกรุงเทพธนาคมขึ้นมาเป็นแขนขา เพื่อให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้นและไม่ติดเงื่อนไขโครงสร้างระบบราชการ ดูแลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ รถไฟฟ้า การเงิน ขยะ หรือโครงการที่ใช้เงินมาก 

 

เวลานี้มีคำถามสะท้อนว่ามีข้อเคลือบแคลงสงสัย ดังนั้น การตั้งคณะกรรมการ(บอร์ด)กรุงเทพธนาคม ต้องตั้งคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในงานนั้น ๆ เป็นชื่อที่ประกาศแล้วผู้คนยอมรับของสังคม นอกจากนี้หากได้เป็นผู้บริหารกทม. ในอนาคตกรุงเทพธนาคมต้องล้ำหน้าเรื่องเทคโนโลยี ทำงานส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยี เป็นต้นแบบต่า ๆ ของไทยให้ได้         

 

นายสุชัชวีร์ย้ำตอนท้ายว่า วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของความหวังของคนกรุงเทพฯ ตนได้เสนอความหวังที่ชัดเจน ให้คนกรุงเทพฯได้พิจารณาไตร่ตรอง เพื่อเลือกอนาคตที่ทำได้จริง ด้วยเทคโนโลยี บนพื้นฐานของความรู้ เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพฯ สู่เมืองสวัสดิการทันสมัยต้นแบบแห่งอาเซียน