บิ๊กตู่ชูกำปั้นปัดขาลง ไม่ยืนยันเลือกตั้งใหญ่ก่อนหรือหลังชิงผู้ว่าฯ กทม.

03 ก.พ. 2565 | 10:35 น.

“บิ๊กตู่”มั่นใจประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นรัฐบาลในการทำงาน ชี้ประเทศไทยมี 400 เขต จะแพ้ 3 เขต ก็เป็นเรื่องของการแพ้ชนะ ยันพรรคเศรษฐกิจไทย เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ขอให้เข้าใจตรงกัน

วันนี้(3 ม.ค.65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองและวิเคราะห์เรื่องการยุบสภา ว่า การตัดสินใจ ต้องอยู่บนข้อมูลพื้นฐาน ขณะนี้ยังไม่มีอะไร  สิ่งสำคัญที่สุดที่รัฐบาลต้องการ คือ การทำงาน เพราะบ้านเมืองมีปัญหา ประชาชนเดือดร้อน ก็ต้องทำงานให้ได้ไปก่อน การเมืองก็ว่าในเรื่องของการเมือง และยังต้องเผชิญกับการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ซึ่งต้องเตรียมความพร้อมในการชี้แจง

 

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่มีการต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรี จากกลุ่ม ส.ส.ที่พรรคพลังประชารัฐขับออกไป และไม่ต้องปฏิบัติในเวลานี้ เพราะยังต้องทำงาน 

ส่วนการเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. เขต 9 จตุจักร-หลักสี่ ที่พรรคพลังประชารัฐแพ้ เป็นเพราะกระแสนิยมในตัวของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า  ประเทศไทยมี 400 เขต จะแพ้ 3 เขต ก็เป็นเรื่องของการแพ้ชนะ ก็ว่ากันไป ขึ้นอยู่กับความนิยมของประชาชน จะบอกว่าเป็นเพราะกระแสนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอยู่ในช่วงขาลง เรื่องนี้ก็ไม่ทราบว่า ขาลงหรือขาขึ้น เพราะก็ขึ้นและลงบันใดอยู่ทุกวัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการทำงานมากกว่า  

 

ในส่วนของการทำงาน ก็ได้ให้กำลังใจกับพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองในตอนนี้ พรรคร่วมในรัฐบาล พยายามทำงานด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ยืนยัน ไม่มีอะไร และได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ให้กำลังใจกันเสมอ ตราบใดที่ยังทำงานและทำความดีร่วมกัน ก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน  ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทย ก็เหมือนกับพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ให้เข้าใจตรงกันว่า เราทำงานเพื่อประเทศชาติ ให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปก่อนให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนใครจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่

 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า พรรคเศรษฐกิจไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร ก็ย้ำเช่นนั้น ส่วนการปรับ ครม. นายกฯ ตอบว่า “สถานการณ์  ยังไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น”

                                   บิ๊กตู่ชูกำปั้นปัดขาลง ไม่ยืนยันเลือกตั้งใหญ่ก่อนหรือหลังชิงผู้ว่าฯ กทม.

เมื่อถามย้ำว่าสถานการณ์ปัจจุบันนายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์  กล่าว่วา “ยังไม่ได้คิด แต่ถ้าอะไรจะเกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้น แต่ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เลวร้าย หรือ แย่ไปทั้งหมด และเชื่อมั่นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังเข้าใจ ไว้ให้ถึงสถานการณ์ใหญ่ค่อยว่ากัน”

 

ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.กับการเลือกตั้งใหญ่ อะไรจะเกิดขึ้นก่อน นายกฯ  กล่าวว่า ก็ต้องรอดูกฎหมายลูก และสถานการณ์การเมืองเป็นส่วนประกอบ ซึ่งการเลือกตั้ง กทม.จะมีขึ้นในเดือน พ.ค. ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด หรือ เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดหมาย 

 

ส่วนการเลือกตั้งใหญ่ก็ต้องรอกฎหมายลูก ซึ่งไม่มีข้อกังวล เพราะมีขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้ว "จะไม่มีการยุบสภาระหว่างทำกฎหมายลูก และยอมรับว่า มีการประเมินและเตรียมการแก้ปัญหา หากกฎหมายลูกไม่ผ่าน หรือมีเหตุให้ตกไป"

 

เมื่อถามว่าตอนนี้นายกฯ มีไม้เด็ดอะไรในมือบ้างหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีกระดาษนี่ไง พร้อมชูกระดาษขึ้นมา ก่อนกล่าวว่า ไม่มีอะไรหรอก มีแต่ความมั่นใจ มีความตั้งใจจริง และทำเพื่อประชาชนประเทศชาติมีแค่นั้น และไม่มีความกังวลอะไร

 

เมื่อถามว่า มองสถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมก็รู้สึกเฉยๆ สำหรับปัญหาที่มีอยู่กับระยะเวลาของรัฐบาลที่เหลือ ส่วนตัวก็คิดว่าปัญหาจะแก้ในรัฐบาลเดียวไม่ได้ ต้องแก้หลายรัฐบาล ก็ต้องช่วยกันสานต่อไป ใครเป็นรัฐบาลก็ทำต่อกันไปนั่นแหละ วันนี้ผมก็เอาของเก่ามาแก้ได้ตั้งเยอะแล้ว วันนี้มันยังไม่เสร็จหรอกประเทศไทย เพราะมันเปลี่ยนแปลงทุกวัน”

 

ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ยังสู้หรือไม่ นายกฯ ได้หันมาถามสื่อมวลชนกลับว่า วันนี้วันอะไร ผู้สื่อข่าวตอบว่า วันทหารผ่านศึก จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชูกำปั้นมือขวา พร้อมกล่าวว่า “ทหารผ่านศึก” ก่อนเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ในวันนี้ ได้มีอาการกระแอมไอและสูดน้ำมูกเป็นระยะๆ และหันไปพูดกับทีมงานว่า “เจ็บคอเพราะพูดมาก”