นับถอยหลัง “รัฐบาลบิ๊กตู่”

22 ม.ค. 2565 | 02:09 น.

สถานการณ์ทางการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้ดรัฐบาล อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะนำไปสู่การ “ยุบสภา” ได้ตลอดเวลา

สถานการณ์ของรัฐบาลภายใต้การนำของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะนี้ต้องบอกว่า อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะนำไปสู่การ “ยุบสภา” ได้ตลอดเวลา  

 

ภายหลังพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) มีมติขับ ขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพปชร. พร้อมด้วยส.ส. รวม 21 คน ออกจากพรรค

แจงเหตุขับก๊วนธรรมนัส

 

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการถึงเหตุการขับส.ส.ทั้งหมดออกจากพรรค เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส และสมาชิกเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ให้มีการปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ ถ้าไม่ปรับจะเคลื่อนไหวให้พรรคเกิดความเสียหาย 

 

“หัวหน้าพรรคเห็นว่า ข้อเรียกร้องจะสร้างปัญหาเกรงจะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ จึงนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) และส.ส.ของพรรค ซึ่งที่ประชุมร่วมกก.บห.และส.ส. จำนวน 78 คน ประกอบด้วย กก.บห. 17 คน และส.ส. 61 คน เห็นว่าข้อเรียกร้องร้องดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากจะเป็นความเสียหายทั้งระบบ” 

ความเคลื่อนไหวก่อนที่พรรคพลังประชารัฐจะมีมติขับ กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ออกจากพรรค เกิดขึ้นภายหลังการประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2565 ต้องล่มลง และกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ได้นำสมาชิกไปหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ โดยได้ยื่นข้อเสนอว่า มีส.ส.ที่พร้อมจะออกพร้อมกับตนเอง จำนวน 20 คน ดังนั้น ถ้าจะไม่ให้กลุ่มนี้ออกต้องมีการปรับ ครม. และส.ส. 21 คน ต้องมี 1 ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ถ้าไม่มีการปรับครม.ทันที ส.ส.ทั้ง 21 คน จะไม่เป็นองค์ประชุมในสภาให้รัฐบาล

 

มีรายงานด้วยว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้ต่อรองขอตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ซึ่งปัจจุบันเป็นโควตาของพรรคชาติไทยพัฒนา โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา นั่งเป็นรัฐมนตรี

 

ไม่ปรับครม.-ไม่ยุบสภา 

 

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคพปชร.มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส และส.ส.รวม 21 คนออกจากพรรคว่า เป็นเรื่องของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของพรรคดำเนินการ เชื่อว่าเป็นการต้องการทำให้สถานการณ์ปกติให้มากที่สุด โดยทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับประชาชน ที่ต้องมองใครเป็นอย่างไร 

 

ดังนั้น ขอให้ติดตามพฤติกรรมของแต่ละคนด้วย ซึ่งตนไม่ได้กล่าวว่าใครดีไม่ดี แต่พฤติกรรมจะเป็นตัวกำหนด และให้ประชาชนคัดกรองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และยืนยันว่าตนไม่ได้คิดจะดำเนินการในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือยุบสภาอะไรต่างๆ โดยเฉพาะขณะนี้กฎหมายก็ยังไม่เรียบร้อย จึงอย่าเอาทุกอย่างมาตีทั้งหมด

 

“ขอบคุณประชาชนที่เชื่อมั่นและเชื่อถือที่ผ่านมา ซึ่งผมก็ได้วางอนาคตไว้พอสมควร โดยเฉพาะแก้ปัญหาที่หมักหมม เป็นภาระของผมที่ทำการทำงานใหม่ๆ ออกมาได้ช้า โดยต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่และข้าราชการด้วย ซึ่งผมเข้าไปลงรายละเอียดในทุกเรื่อง อะไรติดขัดตรงไหนก็พร้อมสั่งการเพิ่มเติมให้ ไม่เคยว่างเว้นการทำงาน”

                                    นับถอยหลัง “รัฐบาลบิ๊กตู่”

ห่วงรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ

 

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงเสียงในสภาฯ ของรัฐบาล โดยระบุว่า หลังจากที่ ร.อ.ธรรมนัส พร้อม 20 ส.ส.ถูกขับให้พ้นจากพรรค พปชร. สภาฯ มีจำนวน ส.ส. 475 เสียง องค์ประชุมต้องใช้ 238 เสียง ขณะนี้เสียงของรัฐบาลมี 275 เสียง เมื่อมี 21 ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐถูกขับออก จะทำให้เสียงรัฐบาลเหลือ 254 เสียง 

 

“เมื่อพิจารณาตัวเลขดังกล่าวเชื่อว่าการประชุมสภาฯ พิจารณากฎหมาย หรือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยไม่ลงมติ จะดำเนินการได้ หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ แต่จะมีเสียงปริ่มน้ำ”

                                              นับถอยหลัง “รัฐบาลบิ๊กตู่”

9 ส.ส.ส่อซบธรรมนัส

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพรรคเล็กในรัฐบาล มีแนวโน้มที่จะไปร่วมกับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ประกอบด้วย พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 คน  พรรคพลังชาติไทย 1 คน พรรคประชาภิวัฒน์ 1  คน พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง พรรคพลเมืองไทย 1 เสียง พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง พรรคไทยรักธรรม 1 เสียง พรรคเพื่อชาติไทย 1 เสียง 

 

นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพลังท้องถิ่นไท ออกมาเปิดเผยว่า พรรคเล็ก ประกอบด้วย 1.พรรคพลังท้องถิ่นไท 5 เสียง 2.พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง 3.พลังชาติไทย 1 เสียง และ4.พรรคชาติพัฒนา 4 เสียง รวม12 เสียง ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ 

 

ภายหลังกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ถูกขับออกเสียงของรัฐบาล กับ ฝ่ายค้าน ห่างกันเพียงกว่า 20 เสียง ถือว่า “ปริ่มน้ำ” มาก หากมีกฎหมายสำคัญ ๆ เข้าสภา แล้ว “สภาล่ม” ต้องเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

 

สถานภาพของรัฐบาล ณ ขณะถือว่า “ง่อนแง่น”มาก หากจะถือเป็นการนับเวลาถอยหลังของ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ก็น่าจะว่าได้...