ทาง 2 แพร่งลุงตู่ ปั้น“ไทยสร้างสรรค์” จำใจอยู่พปชร.ต่อ
ทาง 2 แพร่งลุงตู่ ปั้น“ไทยสร้างสรรค์” จำใจอยู่พปชร.ต่อ : รายงานหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3733 ระหว่างวันที่ 21-24 พ.ย.2564
ปรากฏการณ์ “พรรคไทยสร้างสรรค์” เป็นพรรคของใครกันแน่ หรือ สร้างมาไว้สำรองให้ใคร กว่า 2 เดือน ที่มีกระบวนการจัดการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จนถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนหลังจากที่ศึกซักฟอก วันที่ 4 ก.ย.2564 และมีการปลด 2 รัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2564 หลังจากนั้นคิดว่าน่าจะเป็นเชิงรุกที่จะเข้ามาในพลังประชารัฐ แต่ถึงวันนี้ 2 เดือนแล้วยังไม่สำเร็จ
กระบวนการจัดการใน “พรรคพลังประชารัฐ” ที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง และสนับสนุน บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นผู้นำในการบริหารประเทศ ปัญหาเหล่านี้สะท้อนกลับมาที่เสถียรภาพของรัฐบาล และล่าสุดการปรากฏกายของพรรคการเมืองหนึ่ง ก่อให้เกิดคำถามว่าตกลง พรรคไทยสร้างสรรค์ คือพรรคของใคร
+จับตา“ไทยสร้างสรรค์”
การปรากฏกายของพรรคไทยสร้างสรรค์ ที่มีการจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รับจดทะเบียน เมื่อ 27 ต.ค.2564 มี ธำรงค์ เรืองธุระกิจ เป็นหัวหน้าพรรค ญาณิศา จันทร์เรือง เป็นเลขาธิการพรรค …เป็นพรรคที่เขาว่ากันว่าแนบแน่นกับพรรคพลังประชารัฐ
ปรากฏการณ์ในระยะที่ผ่านมาเราเห็นข่าว 3 เรื่องในระยะหนึ่งเดือน นั่นคือ การพยายามที่จะเข้าไปสู่พรรคพลังประชารัฐ คนแรก พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เข้าไปในฐานะที่ปรึกษาก็ทำอะไรได้ไม่เยอะ การบริหารจัดการยังไม่มี ยังอยู่ที่ทีมเดิม
ล่าสุดมีข่าวออกมานั่นคือ บิ๊กฉิ่ง-ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และ บิ๊กแป๊ะ- พล.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึง บิ๊กแดง-พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผบ.ทบ. ...ต้องบอกว่าลึกลับจากป่ารอยต่อตอนนี้
ฝั่งที่ดูแลพรรค พปชร.อยู่ตอนนี้ตั้งการ์ดสูงไม่ให้เข้า เพื่อบริหารจัดการร่วมกัน และนั่นคือ สัญญาณที่ส่งออกมาว่า มีการปรากฏกายของพรรคการเมืองใหม่ในขณะนี้
“ไทยสร้างสรรค์” จึงถูกตั้งคำถามว่า ตกลงเป็นพรรคสำรองของใคร ใช่การปรากฏกายพรรคสำรองไว้เผื่อเข้าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ใช่หรือไม่
ดังนั้น พรรคไทยสร้างสรรค์ ขอให้จับตาดู ถ้าแผนของ “ลุงตู่” ไม่สามารถเข้าพรรคพลังประชารัฐได้ ให้จับตาการขยับปรับเปลี่ยนกรรมการในพรรคไทยสร้างสรรค์ อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เตรียมพร้อมต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า
ว่ากันว่า “ไทยสร้างสรรค์” เกี่ยวพันกับ บิ๊กแป๊ะ และ บิ๊กฉิ่ง แม้ว่า บิ๊กแป๊ะ จะพ้นตำแหน่งผบ.ตร.และพ้นตำแหน่งส.ว.มาแล้ว แต่การเข้ามาสู่เกมทางการเมืองในสนามใหญ่ ไม่ใช่เรื่องง่าย มือกฎหมายอันดับหนึ่งของรัฐบาล วิษณุ เครืองาม บอกว่า คนที่พ้นจากตำแหน่ง ส.ว.มาแล้ว ไม่เกิน 2 ปี จะรับตำแหน่งผู้บริหารในพรรคหรือตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้
ทำไมนักข่าวถึงถามเรื่องนี้ เพราะระยะหลัง “บิ๊กแป๊ะ” ประกาศไม่ลงแล้วสนาม กทม. การเยื้องกายของบิ๊กแป๊ะ เดินไปคู่ขนานกับ ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร. การปรากฏกายเช่นนี้ ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า อดีตผบ.ตร.และเป็นอดีตส.ว.ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองได้หรือไม่
ปรากฏการณ์ของ “บิ๊กแป๊ะ” ปรากฏการณ์ปรับกระบวนทัศน์ในพรรคพลังประชารัฐ เพื่อขยับป้องกันปัญหาเรื่องกระบวนการทำงานที่เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับเลขาธิการพรรค
เรื่องการตั้งรองหัวหน้าพรรค วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ลงรายละเอียด ยังไม่สรุปว่าใครดูแลภาคไหน เพียงแต่มีการคาดเดาวางพื้นฐานกันว่าใครจะดูตรงไหน ตัวแทนต่างๆ ร่างทรงของพลังประชารัฐที่จะอยู่ตามภาคต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งมีใครบ้าง
บทบาทเหล่านี้คือ การวางเกมไว้ แต่การวางเกมเพื่อเดินไปสู่หมากตรงนั้น ในการปรับเปลี่ยนพรรคพลังประชารัฐจะเป็นจริงหรือไม่ หรือจะมีการเคลื่อนย้ายไปสู่ “พรรคร่างทรง”
+ “ลุงตู่”เข้าพปชร.ยาก
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่การอยู่กับพรรค พปชร.ต่อไป ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อยู่ด้วยกันยาก เพราะโครงสร้างที่พรรคเป็นอยู่ในปัจจุบันไม่เอื้อ และโครงสร้างใหม่ที่นำเสนอเข้าไป ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ยังคงยึดโครงสร้างเดิม ถ้า “ลุงตู่” เข้าไปได้สำเร็จ คือต้องเปลี่ยนเลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ฝั่ง “ลุงป้อม” และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คงไม่ย่อมเด็ดขาด
เหตุผลเพราะเมื่อไหร่ก็ตามถ้าเข้าไปได้ นั่นหมายถึงส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐจำนวนหนึ่งจะต้องเดินตามเลขาธิการพรรคออกไป เพราะบารมีของเลขาธิการพรรค “ผู้กองธรรมนัส” ก็ไม่ธรรมดา
โดยมี 6 เหตุผลที่ “บิ๊กตู่” จะเข้า พปชร.ยาก ประกอบ 1.พปชร.เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของ “บิ๊กป้อม-ร.อธรรมนัส” 2.“ลุงตู่”ไม่แกร่งพอที่จะเข้าไปจัดการ พปชร. 3. ส.ส.ส่วนใหญ่ยังอยู่ขั้ว“บิ๊กป้อม-ร.อ.ธรรมนัส” 4. บรรดา 6 รมต.ข้าง“ลุงตู่”จับมือหลวมๆ ยังไม่ไว้วางใจ 100% 5.เป็นช่วงคะแนนนิยม “ลุงตู่”ตกต่ำ และ 6.เลือกตั้งครั้งหน้า“ลุงตู่”อาจไม่ลงเล่นการเมือง
ทั้ง 6 ปัจจัยเป็นตัวขับเคลื่อน ทำให้การติดเครื่องเดินหน้าไปลื้อโครงสร้าง แล้วจัดการภายในพรรคพลังประชารัฐตอนนี้ลำบาก
+โอกาสตั้งพรรคใหม่”
หนักใจกว่านั้นคือ “น้องตู่” ไม่กล้าหักกับ “พี่ป้อม” แล้วโอกาสที่จะจัดตั้งพรรคใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ มีอะไรบ้าง
โอกาสตั้งพรรคใหม่ของลุงตู่คือ เป็นไปได้สูงกว่าการเข้า พปชร. , ผนึกขั้ว “บิ๊กแดง” ตั้งพรรคใหม่ดีกว่าเข้าพปชร., วางยุทธศาสตร์-วางคนได้ตามยุทธศาสตร์มากกว่า, แบรนด์พปชร.ขายยากมากขึ้น และเปิดทางดึงคน-กลุ่มทุนได้กว้างมากกว่า
“พรรคไทยสร้างสรรค์” ใช่พรรคของลุงตู่หรือไม่ เป็นหนึ่งในตัวแปรพรรคใหม่ที่รองรับลุงตู่ หากตัดสินใจที่จะเดินในแนวทางตั้งพรรคใหม่
ตอนนี้พรรคใหม่มีการคุยกันถึงขั้นว่า ใครที่มาอยู่พรรคใหม่ที่ไม่ใช่เป็นรัฐมนตรีปัจจุบัน ถ้าเข้ามาจะมีแผนเรื่องปรับครม.รองรับหลังจากนี้ เพราะฉะนั้นจับตาถ้าหากมีการ “ปรับครม.” เมื่อไหร่ ให้คิดไว้เลยว่าเตรียมพร้อมสำหรับการ “ปั้นพรรคใหม่”
อนาคตของ “ลุงตู่” ในทางการเมืองนับแต่นี้ จึงน่าสนใจอย่างยิ่งว่า ยังจะเดินบนถนนการเมืองโดยอยู่กับพรรค พปชร.ต่อไป หรือตีจาก “พี่ป้อม” แยกไปตั้งพรรคใหม่...