“เศรษฐา” ประเดิมยกที่ดินกองทัพ 9,276 ไร่ ให้ประชาชนทำกิน
นายกฯ “เศรษฐา” มอบนโยบาย กอ.รมน. ขอกองทัพช่วยชาวบ้านมีที่ดินทำกิน ประเดิมยกที่ดินกองทัพ 9,276 ไร่ จังหวัดอุดรธานี เป็นพื้นที่ต้นแบบ หนองวัวซอโมเดล กำหนดมอบถึงมือประชาชน วันที่ 25 ธ.ค.2566 นี้
วันนี้ (31 ตุลาคม 2566) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางไปมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยรัฐบาลได้มอบหมายการนำที่ดินในการดูแลของกองทัพ มาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ตามนโยบายรัฐบาล
ล่าสุด กองทัพ ผลักดันนโยบายการนำที่ดินในการดูแลของกองทัพ มาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ จนเกิดผลเป็นรูปธรรม ภายใต้ชื่อ โครงการหนองวัวซอโมเดล อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี มีเนื้อที่รวม 9,276 ไร่ โดยกำหนดมอบถึงมือประชาชน ในวันที่ 25 ธันวาคม 2566
ทั้งนี้ ถือเป็นการช่วยกระจายทรัพยากรและกระจายอำ นาจการบริหารจัดการไปสู่ชุมชน เพื่อความมั่นคงในเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนชาวไทย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังให้กองทัพจะขยายผลการดำเนินการไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากขึ้น
สำหรับ โครงการหนองวัวซอโมเดล ตั้งอยู่ที่ตำบลหมากหญ้า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เป็นโครงการนำร่องของกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ 24 ปกครองดูแลที่ดิน ซึ่งพื้นที่แปลงนี้เป็นแปลงสนามฝึกยิงปืนใหญ่ โดยมีกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 3 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 เป็นหน่วยใช้ประโยชน์
ที่ผ่านมารัฐบาล มีนโยบายในการบริหารจัดการที่ดินราชพัสดุในความครอบครองของรัฐ เพื่ออนุญาตให้ประชาชนใช้ประโยชน์โดยชอบตามกฎหมาย กองทัพจึงได้สำรวจพื้นที่สนับสนุนนโยบายดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม โดยกองทัพจะคืนพื้นที่ให้กรมธนารักษ์ ก่อนให้ประชาชนเช่า ซึ่งที่ผ่านมามีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและประชาชนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ นายกฯ ระบุว่า ปัจจุบันบริบทด้านความมั่นคงมีความสลับซับซ้อน มีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายรูปแบบและส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างรวดเร็ว การแก้ไขปัญหาต้องมีการบูรณาการงานของส่วนราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร นอกเหนือจากการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว
นายกฯ ยอมรับว่า ประเทศไทยวันนี้ กำลังเผชิญวิกฤตความท้าทายที่สำคัญ ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม การเมืองภายในประเทศ และต่างประเทศ รัฐบาลชุดนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างความพร้อม และวางรากฐานเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับคนไทยทุกคนทั้งในปัจจุบันและในอนาคตอย่างมั่นคง และในวันนี้ต้องสร้างความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับชีวิต และเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน
ทั้งนี้ นายกฯ ขอให้กองทัพ และ กอ.รมน ช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ โดยการระดมสรรพกำลัง ทรัพยากร เครื่องมือของกองทัพ และส่วนราชการต่าง ๆ เข้าสนับสนุน ช่วยเหลือและป้องกันประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ ร่วมกันพัฒนาประเทศสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจปากท้องประชาชน แก้ปัญหาสังคมที่ต้นเหตุ คือแก้ความยากจน แก้ความยากจน จากปัญหาที่ดินทำกิน
โดยการนำพื้นที่ของหน่วยที่เกินความจำ เป็นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยเฉพาะการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตร การใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้ การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และการสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมของประเทศ
นอกจากนี้ ยังขอให้ กอ.รมน. สนับสนุนการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ เพื่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ผมทราบว่า กอ.รมน.มีทีมงานที่ทำ านร่วมกับนักวิชาการแขนงต่าง ๆ จนทำให้มีความรู้ความเข้าใจดียิ่ง ในการเปลี่ยนวัสดุการเกษตร ใบไม้แห้งในป่าเขาที่เคยถูกเผา สร้างฝุ่นควันพิษ ให้กลายเป็นเงิน สร้างรายได้ให้ประชาชน
โดยนายกฯ ทราบว่าขณะนี้มีความพร้อมจะขยายผลอย่างจริงจังแล้ว กอ.รมน. จะเป็นหน่วยงานสำคัญหน่วยหนึ่ง ที่จะช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควันพิษ ปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน ขอส่วนราชการต่าง ๆ ให้ความสนับสนุน พร้อมกับร่วมกันเดินหน้าอย่างจริงจัง โดยนายกฯ เน้นย้ำให้ทำเร็วที่สุด