รีวิว Honda City Hatchback 2024 ไฮบริดขับเนียน ค่าตัวลดลง

แน่นอนว่ายอดขาย Honda City ส่วนใหญ่ไปอยู่ที่รุ่นเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย พร้อมพละกำลังระดับ 122 แรงม้า แรงสุดในบรรดาอีโคคาร์ด้วยกัน ส่วนไฮบริด e:HEV ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ สมรรถนะออกแนวนุ่มเนียน และได้เปรียบเรื่องอัตราบริโภคน้ำมันที่เป็นมิตร โดยตัวเลขตามอีโคสติกเกอร์ระบุไว้ 27.8 กม./ลิตร ส่วน VTEC TURBO เคลมไว้ที่ 23.3 กม./ลิตร

ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ประเดิมศักราชใหม่ด้วยการเปิดตัว Honda City Minor change ตัวถังแฮตช์แบ็ก ซึ่งความน่าสนใจนอกเหนือไปจากการขยับปรับแต่งโปรดักต์แล้ว กลยุทธ์ด้านราคาที่นำมาใช้ครั้งนี้ บ่งบอกทิศทางของฮอนด้าในการปรับตัวสู้ศึกใหญ่ตลาดรถยนต์ได้เป็นอย่างดี

Honda City Minor change 2024 เกือบทุกรุ่นไม่ปรับราคาขึ้น (ยกเว้นรุ่น เทอร์โบ SV ขยับเพิ่ม 4,000 บาท) แถมในรุ่นไฮบริด e:HEV ยังทำราคาลดลงด้วย

Honda City Hatchback e:HEV รุ่นท็อป RS เดิมค่าตัว 8.49 แสนบาท แต่รุ่นใหม่ Honda City ปี 2024 ขยับลงมาเหลือ 7.99 แสนบาท และเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ SV ราคา 7.29 แสนบาทเข้ามาเป็นทางเลือก ขณะที่สเกลการเปลี่ยนแปลงรวมๆ ก็คล้ายกับการไมเนอร์เชนจ์ของตัวซีดานในปีที่แล้ว

ด้วยการแต่งหน้าทาปาก ทั้ง กระจังหน้า กันชนหน้า เบ้ารับไฟตัดหมอก (แต่ซีดานและแฮตช์แบ็ก มีความต่างกัน) รวมถึงลวดลายกันชนหลัง และล้ออัลลอยลายใหม่ พร้อมเพิ่มระบบความปลอดภัย Honda Sensing ในทุกรุ่นย่อย

สำหรับความต่างของรุ่น e:HEV กับ VTEC TURBO ถ้าเข้ามาภายในห้องโดยสาร ให้ดูที่เบรกมือได้เลยครับ เพราะถ้าเป็นรุ่นไฮบริดจะได้เบรกมือไฟฟ้า กับ ออโต้เบรกโฮลด์ ส่วนภายนอกจะมีสัญลักษณ์ e:HEV และโลโก้ H Mark กรอบสีฟ้าแปะไว้ให้รู้อยู่แล้ว แต่ถ้าใครขยันก็ให้ก้มดูที่ล้อได้ โดยรุ่นไฮบริดจะได้ดิสก์เบรกสี่ล้อ ส่วนรุ่นเทอร์โบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม

Honda City 2024 ไฮบริด รุ่นย่อย RS กับ SV ราคาต่างกัน 7 หมื่นบาท โดยตัวท็อปจะได้ความโดดเด่นจากชุดแต่งรอบคัน ขณะเดียวกันลวดลายของชุดแต่งคาร์บอนไฟเบอร์(ไม่ใช่งานคาร์บอนไฟเบอร์ แท้) บริเวณกันชนหน้า-หลัง ดูโหดกว่าเดิมเยอะ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วสีดำ

Honda City Hatchback e:HEV RS ราคา 7.99 แสนบาท ยังได้ ชุดไฟหน้า-ไฟตัดหมอก LED ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบเชื่อมต่อและสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน  Honda CONNECT พร้อมลำโพง 8 ตัว และเพิ่มม่านถุงลมนิรภัยซ้าย-ขวา รวมเป็น 6 ตำแหน่ง (เพิ่มจากคู่หน้า-ด้านข้าง)

ด้านเบาะหลังมีพนักเท้าแขนพร้อมช่องวางแก้วน้ำ และที่ขาดไม่ได้คือ ออพชันลูกรัก Honda LaneWatch กล้องแสดงภาพมุมอับสายตา

เรียกว่าตัวท็อป Honda City Hatchback e:HEV RS จัดเต็มทั้งระบบอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยละครับ เพียงแต่ยังขาดออพชันตามสมัยนิยมอย่าง Wireless Charger หรือหลังคาแก้ว

ด้านสมรรถนะจากขุมพลังไฮบริด ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน พละกำลังมาแบบนวลๆ ตอบสนองทันใจ แต่ไม่เกรี้ยวกราดพลังหนุ่มแบบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ

ระบบไฮบริดของฮอนด้า จริงๆ มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเป็นหลัก ส่วนเครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นไฟ (ไฮบริดแบบซีรีส์ หรือ e-Power ของนิสสัน) ดังนั้นดูกำลังจากแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้า 253 นิวตัน-เมตร ในการวัดประสิทธิผลได้เลย (ส่วนมอเตอร์/เจเนอเรเตอร์ อีกตัวจะทำหน้าที่แปลงพลังงานจากเครื่องยนต์เป็นไฟฟ้าไปขับเคลื่อนหรือไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน)

ผมชอบบุคลิกรวมๆของ Honda City Hatchback e:HEV มากกว่ารุ่นเทอร์โบ ทั้งช่วงล่าง แฮนด์ลิ่ง พร้อมความเนียนของระบบขับเคลื่อน การส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้ามีความละมุน ขณะที่อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ประมาณ 10 วินาที ขับสบายทั้งใช้งานในเมือง และวิ่งทางไกลออกต่างจังหวัด

ด้านอัตราบริโภคน้ำมันจากการขับที่ทางไกลใช้ความเร็วสูงเป็นหลัก (เส้นมอเตอร์เวย์ขับไปพัทยา) ยังเห็นตัวเลข 22 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ...ถ้าวัดเฉพาะอีโคคาร์ตัวถังแฮตช์แบ็ค Honda City ขุมพลังไฮบริด น่าจะขับเนียนที่สุดในคลาสแล้ว(คู่แข่งยังเป็น ICE ทั้งหมด) แม้ราคาจะสูงกว่า แต่การไมเนอร์เชนจ์คราวนี้ก็ลดราคา ขยับช่องว่างลงมาให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

รีวิว Honda City Hatchback 2024 : กรกิต กสิคุณ