รถยนต์ไฟฟ้าเนื้อหอม เวทีแจ้งเกิดแบรนด์น้องใหม่ ดีลเลอร์เล็งนำเข้า

03 มิ.ย. 2560 | 13:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

อานิสงส์นโยบายรถยนต์ไฟฟ้า “วีร่า”เตรียมส่งมอบล็อตแรก ก.ค.นี้ ส่วน “เกีย”เจรจาบริษัทแม่ ลุ้นนำเข้า “โซล อีวี” เปิดตัวปลายปี

แม้รัฐบาลจะเคาะนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าออกมาแล้ว แต่ในเงื่อนไขรายละเอียดต่างๆยังไม่ได้กำหนดแน่ชัด ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่และผู้ที่สนใจจะเข้ามาลงทุนยังคงอุบเงียบเกี่ยวกับแผนการลงทุน

อย่างไรก็ดีใช่ว่าโครงการนี้จะมีแต่ค่ายใหญ่ให้ความสนใจ แต่มีผู้ผลิตแบรนด์ใหม่หลายรายที่เห็นโอกาสทางการตลาด หวังจะเข้ามาเปิดและแจ้งเกิดก่อน ยกตัวอย่างแบรนด์คนไทย วีร่า ภายใต้ บริษัทวีร่าออโตโมทีฟ จำกัด ที่เปิดตัว VERA V1 (ที่มีพื้นฐานมาจากรถแฮตช์แบ็ก 5 ประตูแบรนด์จีลี่จากจีน) โดยในเดือน ก.ค.นี้จะทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าที่จองเข้ามาประมาณ 10 คัน และคาดว่าราคาจากเดิมที่ตั้งไว้ 9.45 แสนบาท จะลดลงเหลือ 8.5 แสนบาท เนื่องจากราคาแบตเตอรี่เริ่มลดลง

“เรายังไม่ได้เน้นตลาดแมส ดังนั้นยอดจองประมาณ 10 คัน จึงถือว่าพึงพอใจ โดยระหว่างนี้เรากำลังพัฒนาและปรับสเปกให้รองรับกับความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด เพราะแต่เดิมคาดว่าจะส่งมอบตั้งแต่พ.ค. แต่ต้องเลื่อนเป็น ก.ค.ซึ่งหลังจากส่งมอบแล้วก็จะต้องรอดูฟีดแบ็กและศึกษาตลาดต่อไป” นายวันชัยมีศิริ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทวีร่าออโตโมทีฟ จำกัด กล่าวและว่า

ขณะที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแบรนด์เกีย ภายใต้การบริหารงานของยนตรกิจ เริ่มพูดคุยกับบริษัทแม่ที่เกาหลี เพื่อขอนำรถรุ่นใหม่ที่สอดรับกับนโยบายของภาครัฐเข้ามาโชว์ และอาจจะทำตลาดในไทยช่วงปลายปีนี้

“เราได้มีการพูดคุยกับบริษัทแม่ที่เกาหลี เกี่ยวกับทิศทางและนโยบายที่รัฐบาลไทยให้การสนับสนุน รถไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด หรือรถยนต์อีวี โดยในช่วงปลายปีจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ “เกีย โซลอีวี” ที่เกาหลี ซึ่งหากเรานำมาทำตลาดในไทย ก็จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเราได้ ซึ่งเราประเมินเบื้องต้นว่าราคาจำหน่ายรถรุ่นใหม่นี้จะอยู่ประมาณ 1 ล้านต้นๆ” นางสาวธันยนันท์ ลีนุตพงษ์กรรมการบริหาร บริษัทยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัดผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแบรนด์ “เกีย”แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”

ด้านน้องใหม่แบรนด์แรตเทิล (Rayttle) ที่ทำตลาดโดย บริษัท ซิลิคอนมอเตอร์ส จำกัด หลังจากได้เปิดตัวรถไฟฟ้า รุ่น E28 ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปี 2559 พบว่าลูกค้าให้ความสนใจลงทะเบียนกว่า 800 คน

“เรานำรถเข้าไปโชว์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป โดยมีรายละเอียดสเปกรถพร้อมทั้งให้ลูกค้าได้สัมผัส แต่ยังไม่มีราคาจำหน่าย เพราะต้องทำการทดสอบรถให้เป็นที่มั่นใจก่อน นอกจากนั้นแล้วเรายังทำการสำรวจราคารถภายในงานว่าลูกค้าจะรับได้ในระดับไหน ซึ่งคำตอบที่ได้แบ่งออกเป็น 2 ราคา โดยกลุ่มวัยรุ่นจะรับได้ที่ราคา3-4 แสนบาท ส่วนผู้ใหญ่มองว่าราคา 6 แสนบาท”นายอภิราม สีตกะลินหนึ่งในทีมผู้บริหาร บริษัทซิลิคอน มอเตอร์ส จำกัดกล่าวและว่า

สำหรับรถไฟฟ้าแรตเทิล นำเข้ามาจากประเทศจีน นํ้าหนักตัวรถ 660 กิโลกรัมบรรทุกได้ 200 กิโลกรัมรองรับผู้โดยสารและคนขับรวม 3 คน ความเร็วสูงสุด80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแบตเตอรี่ลิเธียม ระยะทางวิ่งได้ต่อการชาร์จ 150 กิโลเมตร โดยราคาตัวรถจะขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ที่ลูกค้าเลือกซึ่งเบื้องต้นที่วางแผนไว้จะมี3 แบรนด์ ตั้งแต่แบตเตอรี่ราคาถูกจากจีนไปจนถึงแบบเดียวกับเทสล่า

[caption id="attachment_155360" align="aligncenter" width="503"] รถยนต์ไฟฟ้าเนื้อหอม เวทีแจ้งเกิดแบรนด์น้องใหม่ ดีลเลอร์เล็งนำเข้า รถยนต์ไฟฟ้าเนื้อหอม เวทีแจ้งเกิดแบรนด์น้องใหม่ ดีลเลอร์เล็งนำเข้า[/caption]

นายอภิราม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้รอความชัดเจนจากกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับหัวชาร์จว่าจะเป็นแบบไหน รวมไปถึงการจดทะเบียนที่ต้องรอให้กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้กำหนดว่าจะจดในรูปแบบไหน แต่เบื้องต้นคือจดได้ ขณะที่แผนการตลาดจะมีการเข้าร่วมงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปี 2560

“หลายคนอาจจะมองว่ารถยนต์ไฟฟ้า ,ปลั๊กอินไฮบริด เป็นรถของคนที่มีเงิน คนรวย แต่เรามองว่าอนาคตมันจะกระจายมาสู่คนทั่วไป ยกตัวอย่างที่เราเห็นตอนนี้ อย่างแบรนด์เทสล่า, เมอร์เซเดส-เบนซ์,ปอร์เช่ , บีเอ็มดับเบิลยู หลังจากนั้นก็จะเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นและแบรนด์ใหม่ๆที่จะเข้ามาสอดแทรก โดยเรามองว่าตลาดนี้ค่อนข้างเปิดกว้างเพียงแต่ต้องมีความชัดเจนด้านต่างๆ นอกจากนั้นแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือแบตเตอรี่ลิเธียมที่จะมาเป็นตัวแปรด้านราคาในอนาคต เพราะจากการประเมินราคาของแบตเตอรี่ถูกลงเรื่อยๆ”

ถือเป็นเซ็กเมนต์ใหม่ที่แม้จะไม่ใช่ตลาดใหญ่ แต่ก็ได้รับความสนใจและเริ่มมีการขยับตัวกันมากขึ้น โดยหลังจากนี้เมื่อมีความชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆของภาครัฐออกมา คาดว่าตลาดนี้ เซ็กเมนต์นี้แข่งขันกันสนุกแน่นอน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560