“สุพัฒนพงษ์” เตรียมชง “มาตรการลดค่าครองชีพรอบใหม่” ใน ครม. สัปดาห์หน้า

14 มิ.ย. 2565 | 12:51 น.

“สุพัฒนพงษ์” เผยขณะนี้ได้ข้อสรุปมาตรการลดค่าครองชีพประชาชนรอบใหม่แล้ว เตรียมชง ครม.เห็นชอบ สัปดาห์หน้า ยืนยันมีเงินใช้ในการดำเนินมาตรการแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 14 มิ.ย. 2565 นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ได้เดินทางมายังกระทรวงการคลัง เพื่อร่วมประชุมหารือมาตรการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนรอบใหม่ โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายดนุชา พิชยนันท์  เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)​หรือสภาพัฒน์

 

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์  ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์การ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)​ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ  ปลัดกระทรวงการคลัง  นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงการพลังงาน  นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)​  นายวิศักดิ์  วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุม ได้ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที

 

สุพัฒนพงษ์ นั่งหัวโต๊ะ ถก มาตรการลดค่าครองชีพรอบใหม่

โดยนายสุพัฒนพงษ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมเพียงสั้นๆ ว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปถึงมาตรการที่จะออกมาช่วยเหลือเพิ่มเติมแล้ว โดยให้แต่ละหน่วยงานไปทำสรุปอีกครั้ง เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)​พิจารณาอนุมัติในวันอังคารที่ 21 มิ.ย.นี้  เพื่อให้ทันการประกาศใช้ในเดือน ก.ค.นี้

 

ขณะที่แหล่งที่จะใช้ในการดำเนินมาตรการ นั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวเพียงว่า ได้ให้กระทรวงการคลังไปสรุปอีกครั้ง แต่ขอยืนยันว่ามีแหล่งเงินที่จะนำมาใช้แน่นอน

สำหรับมาตรการที่จะสิ้นสุด 30 มิ.ย.นี้ ได้แก่ 

1.เพิ่มเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน  จำนวน 3.6 ล้านคน

2.ให้ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

3.ช่วยค่าน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 250 บาทต่อเดือน ในกลุ่มมอเตอร์ไซต์รับจ้าง

4. ตรึงราคาขายก๊าซเอ็นจีวี 15.59 บาทต่อกิโลกรัม

5.แท็กซีมิเตอร์ โครงการลมหายใจเดียวกัน ซื้อก๊าซแอลพีจี 13.62 บาทต่อกิโลกรัม

6.ลดค่าไฟ (เอฟที)​22 สตางต์(สต.)​ต่อหน่วย ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค.65

7.ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตร 35 บาท และช่วยออกครึ่งหนึ่งของที่เกิน 30 บาท

8.ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดูแลราคาก๊าซหุงต้มไม่ให้ปรับขึ้นสูงเกินไป

9.ลดเงินสบทบนายจ้างลูกจ้าง ม.33 จาก 5% เหลือ 1%

10.ลดเงินสบทบ ม.39 จาก 9% เหลือ 1.9% และม.40 เหลือ 42-180 บาทต่อเดือน