นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง กรณีมีความกังวลภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืดของไทยจะเกิดขึ้นพร้อมๆกัน หรือเข้าสู่ภาวะ Stagflation นั้น โดยระบุว่า ภาวะดังกล่าว หมายถึงราคาสินค้าขึ้น จีดีพีหรือตัวเลขเศรษฐกิจลดลง และยังเกิดภาวะคนว่างงาน
ขณะนี้ไทย แม้ราคาสินค้าขึ้น แต่ขณะนี้คนเริ่มกลับเข้าสู่การทำงาน ขณะเดียวกันตัวเลขจีดีพียังโต สะท้อนว่าคนไทยยังมีรายได้ เพียงแต่ความสามารถ หรือ กำลังซื้อลดน้อยลง พร้อมย้ำว่าเศรษฐกิจไทยกำลังค่อยๆฟื้น ย้ำไม่ต้องการเศรษฐกิจที่โตแบบกระโดดขึ้นแรง และตกทิ่มลงมาอีกครั้งหนึ่ง
“ขณะนี้คนเริ่มกลับเข้ามาทำงาน แม้กระทั่งคนที่รดน้ำต้นไม้ หรือแม้กระทั่งคนดูแลห้องน้ำ แต่ค่าจ้างจะได้เต็มเหมือนก่อนเกิดโควิดหรือไม่ ก็ขึ้นอยูกับผู้จ้าง ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อเงินรายได้กลับมา หรือรายได้กลับมาเต็มร้อยเหมือนปกติ แต่ราคาสินค้าขึ้น ก็ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง ที่เคยซื้อกิน 2 ชิ้น ก็ลดลงเหลือ 1 ชิ้น แต่ก็ถือว่ายังพออยู่ได้ ดีกว่าตอนล็อกดาวน์ ซึ่งตอนนั้นรัฐบาลก็ได้ช่วยเยียวยาให้” นายอาคม กล่าว
นายอาคม กล่าวอีกว่า ภาวะเงินเฟ้อนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกประเทศ ซึ่งบางประเทศใช้วิธีปล่อยไปตามกลไก โดยไม่ได้ออกมาตรการใดมาช่วย เพราะราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น เชื่อว่าเมื่อวันนึงที่มีดีมานด์และซัพพลายเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลให้ราคาสินค้าก็จะปรับลดลงไปเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงการคลัง ก็อยู่ระหว่างการหารือกับสภาพัฒน์ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ โดยจะเป็นแบบเฉพาะกลุ่ม เพราะราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ก็กระทบในแง่ของกำลังซื้อด้วย โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้ระดับล่าง